แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ไม่ปรากฎว่าจำเลยจ้องปืนยิงไปทางไหนยังไม่พอลงโทษฐานพยายามฆ่าคน เมาสุรายั้งสติไม่อยู่วินิจฉัยว่าไม่มีเจตนาฟ้องว่าพยายามฆ่าคนพิจารณาได้ความว่าพยายามทำร้าย ลงโทษได้
ย่อยาว
จำเลยเมาสุราจนยั้งสติไม่อยู่ ได้ถือปืนเดิรตรงมาที่ ร. แล้วยิงปืนขึ้นนัดหนึ่ง แต่กระสุนปืนไม่ถูกใคร เมื่อจำเลยค้นหากระสุนปืนในกระเป๋าอีกไม่ได้ แล้วจึ่งพูดว่าฟันเสียเถอะ แล้วก็ตรงเข้าฟัน ร. ๒ ที ร.เอาปืนรับไว้ แล้วตีตอบไปถูกศีร์ษะกับดั้งจมูกจำเลยล้มลง แต่โจทก์ขอให้ลงโทษตามมาตรา ๒๔๙-๖๐ เท่านั้น
ศาลเดิมตัดสินว่า จำเลยมีผิดตามมาตรา ๒๔๙-๖๐ และพระราชบัญญัติอาวุธปืน ร.ศ.๑๓๑ มาตรา ๓๔ รวม ๒ กะทง แต่ให้ลงโทษตามมาตรา ๒๔๙-๖๐ ซึ่งเปนบทหนัก จำคุกจำเลย ๑๐ ปี
ศาลฎีกาและศาลอุทธรณ์เห็นว่า พะยานโจทก์เบิกความแตกต่างกัน ฟังไม่ได้ว่าจำเลยจ้องปืนไปทางใด และประกอบด้วยจำเลยเมาสุราจนไม่มีสติดั่งนี้ ยังไม่พอจะลงความเห็นว่าจำเลตั้งใจยิง ร.โดยเจตนา จึ่งตัดสินแก้ศาลเดิมว่า จำเลยมีผิดเพียงฐานพยายามทำร้ายร่างกายตามมาตรา ๖๐-๒๕๔ ให้จำคุก ๖ เดือนกับปรับตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ร.ศ.๑๓๑ มาตรา ๓๔ อีก ๓๐ บาท