คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 570/2499

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษและเพิ่มโทษ ก.ม.อาญา ม.73 แต่ข้อเท็จจริงได้ความว่าจะต้องเพิ่มโทษจำเลยตาม ม.72 ศาลก็เพิ่มโทษจำเลยตาม ม.72 ได้ไม่เป็นการเกินคำขอ
จำเลยทำการชิงทรัพย์และได้ทำให้ทรัพย์ของเจ้าของทรัพย์เสียหายด้วย เมื่อปรากฏว่าการกระทำของจำเลยเกิดขึ้นในถานที่เดียวกันในเวลาติดต่อเนื่องกันด้วยเจตนามุ่งหวังในทรัพย์ไม่ขาดตอนกันเช่นนี้การกระทำของจำเลยถือว่าเป็นความผิดหลายบทไม่ใช่หลายกะทง.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยได้พยายามชิงทรัพย์ของนายฮีเจ็ง แซ่แต้ และจำเลยได้ทำทรัพย์ของนายฮีเจ็งชำรุดเสียหายเป็นราคา ๗๙ บาท จำเลยเคยต้องโทษมาแล้ว ขอให้ลงโทษตาม ก.ม.อาญา ม.๒๙๘,๒๙๙,๖๐,๓๒๔,๓๓๘,๗๓
จำเลยปฏิเสธว่ามิได้ลักทรัพย์และทำร้ายนายฮีเจ็ง คงรับแต่ว่าได้ทำให้ทรัพย์ของฮีเจ็งเสียหายและเคยต้องโทษมาแล้วจริง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิด ก.ม.อาญา ม.๒๙๘,๒๙๙,๖๐ จำคุก ๒ ปี ๘ เดือน เพิ่มโทษตาม ม.๗๒ หนึ่งในสาม เป็น ๓ ปี ๖ เดือน ๒๐ วัน และผิดตาม ม.๓๒๔,๓๓๘ รวมกะทงลงโทษ ๑๘ เดือน เพิ่มโทษ ๑ ใน ๓ ตาม ม.๗๒ และลดกึ่งตาม ม.๕๙ แล้วคงจำคุก ๑ ปี รวมเป็นโทษจำคุก ๔ ปี ๖ เดือน ๒๐ วันและให้กักกันอีก ๓ ปี ส่วนที่โจทก์ขอให้เพิ่มโทษตาม ม.๗๓ นั้นยังไม่เข้าเกณฑ์ให้ยกเสีย
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริง เช่น เดียวกับศาลอาญาว่าคืนเกิดเหตุจำเลยเมาสุราไปพูดของเงินผู้เสียหาย ๆ ว่าไม่มี จำเลยหาว่างอแงตรงเข้าชกตู้กระจก ผู้เสียหายหนี้ไปจำเลยเมาสุราไปพูดขอเงินผู้ผู้เสียหาย ๆ ว่าไม่มี จำเลยหาว่างอแงตรงเข้าชกตู้กระจก ผู้เสียหายหนี้ไปจำเลยตามไปชกและดึงลิ้นชักโต๊ะใส่เงิน ผู้เสียหายเข้าแย่งจึงเอาเงินไปไม่ได้ ผู้เสียหายเข้าแย่งจึงเอาเงินไปไม่ได้ ผู้เสียหายดึงจำเลยไปกลางร้าน จำเลยก็จับเก้าอี้ขว้างถูกขวดสุราแตก ๕ ใบ แล้วจำเลยก็หนี้ไป ศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลย ทำผิดหลายกะทง บางกะทงเพิ่มโทษไม่ได้ จึงพิพากษาว่าจำเลยผิด ก.ม.อาญา ม.๒๙๙,๖๐,๗๒ จำคุก ๓ ปี ๖ เดือน ๒๐ วัน จำคุกตาม ม.๗๒,๕๙ อีก ๒ เดือน ปรับตาม ม.๓๓๘ (๓) เงิน ๕๐ บาทรวมเป็นจำคุก ๓ ปี ๖ เดือน ๒๐ วันและปรับ ๕๐ บาท ข้อกักกันใ้ห้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น แต่มีความเห็นแย้งว่าศาลจะไปแยกกะทงลงโทษนั้นไม่ได้เพราะเป็นการเพิ่มโทษจำเลยโดยโจทก์ไม่ได้อุทธรณ์เห็นควรให้ รวมกะทงลงโทษและเพิ่มโทษจำคุก ๓ ปี ๖ เดือน ๒๐ วัน ข้อกักกันตามเดิม
จำเลยฎีกาปัญหาข้อ ก.ม.
ศาลฎีกาเห็นว่าข้อเท็จจริงฟังยุติแล้วว่าการกระทำของจำเลยเกิดขึ้นในสถานที่เดียวกัน คืนเดียวกัน เวลาติดต่อเนื่องกันด้วยความมุ่งหวังในทรัพย์ไม่ขาดตอนเรียกไม่ได้ว่าเป็นความผิดหลายกะทงแต่เป็นความผิดหลายบท จึงต้องลงโทษตาม ม.๒๙๙,๖๐ ส่วนที่โจทก์ขอให้เพิ่มโทษตาม ม.๗๓ แต่ศาลใช้ ม.๗๒ นั้นเห็นว่าเป็นเรื่องโจทก์อ้างมาตราผิดศาลมีอำนาจเพิ่มโทษตามบทที่ถูกต้องได้ พิพากษาแก้ให้ลงโทษตาม ก.ม.อาญา ม.๒๙๙ ซึ่งเป็นบทหนักประกอบกับ ม.๖๐ จำคุก ๒ ปี ๘ เดือน เพิ่มโทษตาม ม.๗๒ อีก ๑ ใน ๓ เป็น ๓ ปี ๖ เดือน ๒๐ วัน คำให้การจำเลยไม่ควรปาณีลดโทษให้ ช้อกักกันให้เป็นไปตามศาลชั้นต้น.

Share