คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 543/2500

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

สัญญาเช่าที่มีข้อความว่า “เมื่อสัญญานี้ได้มีอายุอยู่จนครบกำหนด….ต่อแต่นั้นไปฝ่ายใดจะเลิกสัญญาต้องบอกกล่าวล่วงหน้า..1 เดือนนั้น การบอกเลิกสัญญานี้จะบอกล่วงหน้าก่อนถึงกำหนดอายุสัญญาก็ได้ ไม่จำต้องบอกเมื่อครบกำหนดอายุสัญญาแล้ว.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากตึกเช่า อ้างว่าเป็นอาคารใช้ทำการค้า และว่าได้บอกเลิกการเช่าให้จำเลยทราบล่วงหน้ากว่า ๑ เดือนตามสัญญาแล้ว
จำเลยให้การว่าจำเลยเช่าเพื่ออยู่อาศัย และว่าการบอกเลิกสัญญาของโจทก์มิได้เป็นไปตามข้อที่ตกลงกันไว้
ศาลแขวงพระนคร ได้พิพากษาให้ขับไล่จำเลย
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกาในข้อกฎหมายว่า การบอกเลิกสัญญาทำไม่ถูกต้อง เท่ากับยังไม่มีการบอกเลิก โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง
ศาลฎีกาเห็นว่า สัญญาเช่านี้มีกำหนด ๔ ปี ตั้งแต่ ๑ ม.ค.๙๓ ถึง ๓๑ ธ.ค.๙๖ และตามสัญญาข้อ ๒ มีความว่า “เมื่อสัญญานี้ได้มีอายุอยู่จนครบกำหนดเวลาดังกล่าวในข้อ ๑ ต่อแต่นั้นไปฝ่ายใดจะเลิกสัญญาต้องบอกกล่าวล่วงหน้าเป็นลายลักษณ์อักษรมีกำหนด ๑ เดือน” ดังนี้ ศาลฎีกาเห็นพ้องกับศาลอุทธรณ์ว่า การบอกเลิกสัญญารายนี้ตามเจตนารมณ์ของสัญญาจะบอกกล่าวล่วงหน้าก่อนถึงกำหนดอายุสัญญาก็ได้ หาจำเป็นต้องบอกต่อเมื่อครบอายุสัญญาแล้วไม่ จึงพิพากษายืน.

Share