แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เมื่อฟ้องของโจทก์ในข้อ 2 กล่าวว่าจำเลยที่ 2 เชิดจำเลยที่ 1 เป็นเจ้าของและผู้จัดการโรงน้ำแข็ง จำเลยที่ 1 ซื้อเชื่อเครื่องก่อสร้างไปสร้างโรงน้ำแข็ง จึงขอให้จำเลยที่ 2 ร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 ดังนี้ศาลย่อมมีอำนาจวินิจฉัยเกี่ยวกับเรื่องตัวการตัวแทนได้ไม่เป็นการวินิจฉัยนอกฟ้องนอกประเด็น
อนึ่งเมื่อฟังว่าตามทะเบียนแท้จริงจำเลยที่ 1 เป็นเจ้าของโรงน้ำแข็ง แม้ภายหลังจำเลยที่ 1 ที่ 2 พิพาทกัน ศาลพิพากษาว่าโรงน้ำแข็งเป็นของจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างก็ตาม เมื่อการก่อสร้างโรงน้ำแข็งรายนี้เป็นไปเพื่อประโยชน์ของจำเลยที่ 2 ดังนี้ จำเลยที่ 2 ผู้เป็นเจ้าของโรงนี้แข็งรายนี้จำต้องรับผิดในฐานะเป็นตัวการของจำเลยที่ 1 โดยตรงตามกฎหมาย.
ย่อยาว
ข้อ ๑ โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ ๑ แต่คงโดยเปิดเผยว่าเป็นเจ้าของและผู้จัดการโรงน้ำแข็งจ้าวทะเล โดยซื้ออิฐ หิน ทราย ฯลฯ ของโจทก์ไปก่อสร้างโรงน้ำแข็งจ้าวทะเลรวมเป็นเงิน ๓๕๙๑๐.๘๘ บาท ข้อ ๒.ว่ามาบัดนี้ปรากฏว่าโรงน้ำแข้งจ้าวทะเลเป็นของ จำเลยที่ ๒ จำเลยที่ ๒ เชิดจำเลยที่ ๑ เป็นเจ้าของและผู้จัดการโรงน้ำแข็งดังกล่าว จำเลยที่ ๒ ต้องรับผิดร่วมกับจำเลยที่ ๑ จึงขอให้จำเลยทั้งสองใช้เงินและดอกเบี้ย
จำเลยที่ ๑ ขาดนัดไม่ยื่นคำให้การจำเลยที่ ๒ รับว่าโรงน้ำแข็งจ้าวทะเลเป็นของจำเลยที่ ๒ ในการก่อสร้างได้มอบราคาก่อสร้างให้จำเลยที่ ๑ ไปในทำนองผู้รับเหมาไปดำเนินการ หากจะมีหนี้สินระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ ๑ ก็เป็นเรื่องเชื่อถือจำเลยที่ ๑ เป็นส่วนตัวหรือสมยอมกันทำขึ้น จำเลยที่ ๒ ไม่ได้แสดงว่าจำเลยที่ ๑ เป็นเจ้าของและผู้จัดการจึงไม่ต้องรับผิด
ศาลชั้นต้นเห็นว่าคดีนี้เข้าลักษณะตัวการไม่เปิดเผยชื่อตาม ป.พ.พ. ม.๘๐๖ จำเลยที่ ๒ ซึ่งเป็นตัวการได้รับประโยชน์อันเนื่องจากตัวแทนได้ทำไว้ จำเลยที่ ๒ จึงต้องรับผิดต่อโจทก์เช่นจำเลยที่ ๑ พิพากษาให้จำเลยทั้งสองใช้เงินกับดอกเบี้ยตามฟ้อง
จำเลยที่ ๒ ผู้เดียวอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่านอกจากกรณีจะไม่ใช่เรื่องเชิดตัวแทนแล้ว ยังไม่ใช่กรณีตาม ป.พ.พ. ม.๘๐๖ ซึ่งศาลชั้นต้นยกขึ้นปรับแก่คดีด้วย เป็นกรณีตาม ป.พ.พ. ม.๘๒๐ ซึ่งเมื่อจำเลยที่ ๒ เป็นตัวการ จำเลยที่ ๒ ก็ต้องรับผิด พิพากษายืน
จำเลยที่ ๒ ฝ่ายเดียวฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าฎีกาจำเลยที่ว่าศาลเอาบทบัญญัติเรื่องตัวแทนตัวการมาวินิจฉัยนั้นเป็นวินิจฉัยนอกฟ้องนอกประเด็นเพราะโจทก์มิได้ฟ้องให้จำเลยที่ ๒ รับผิดในฐานะที่จำเลยที่ ๑ เป็นตัวแทนของจำเลยที่ ๒ นั้นเห็นว่าฟ้องข้อ ๒ ของโจทก์กล่าวว่า บัดนี้ความจริงปรากฏว่าโรงน้ำแข็งจ้าวทะเลเป็นของจำเลยที่ ๒ ๆ ได้เชิดจำเลยที่ ๑ เป็นเจ้าของและผู้จัดการโรงน้ำแข็งดังกล่าว จำเลยที่ ๒ จึงต้องรับผิดร่วมกับจำเลยที่ ๑ เมื่ออ่านฟ้องทั้งสองข้อประกอบกันแล้วทำให้เข้าใจว่าจำเลยที่ ๒ ได้เชิดจำเลยที่ ๑ อันหมายความว่าจำเลยที่ ๑ เป็นตัวแทนจำเลยที่ ๒
อนึ่งทางพิจารณาฟังได้ว่าตามทะเบียนที่แท้จริงตามที่ปรากฏนั้นจำเลยที่ ๑ ได้ไปจดทะเบียนว่าโรงน้ำแข็งจ้าวทะเลเป็นของจำเลยที่ ๑ ภารก่อสร้างโรงน้ำแข็งนี่ก็เป็นไปเพื่อประโยชน์ในกิจการของจำเลยที่ ๒ จำเลยที่ ๒ ได้โรงน้ำแข็งสำเร็จสมประสงค์ของตน ตามสำนวนคดีแดงที่ ๔๓๑/๒๔๙๔ ว่าจำเลยที่ ๑ เป็นลูกจ้างจำเลยที่ ๒ ๆ เพิ่งจะมากล่าวอ้างในคดีนี้ว่านายเข็งโหมว จำเลยที่ ๑ มิใช่ลูกจ้าง เป็นแต่เพียงผู้รับเหมาซึ่งไม่มีทางจะฟังได้ จำเลยที่ ๒ ผู้เป็นเจ้าของโรงน้ำแข็งรายนี้จึงต้องรับผิดในฐานะเป็นตัวการของจำเลยที่ ๑ โดยตรงตามกฎหมาย พิพากษายืน.