คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1402/2499

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในการแปลงหนี้ใหม่โดยการเปลี่ยนตัวเจ้าหนี้ซึ่งกระทำกันโดยลูกหนี้ทำหนังสือสัญญากู้ยืมให้เจ้าหนี้ใหม่นั้นเพียงเท่านี้ก็ถือได้ว่ามีการยินยอมเป็นหนังสืออยู่ในตัวแล้ว.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกู้เงินโจทก์ไป ๒ ราย ๆ หนึ่ง ๙,๐๐๐ บาท อีกรายหนึ่ง ๔,๐๐๐ บาท จำเลยค้างชำระรวมทั้งดอกเบี้ยด้วยเป็นเงิน ๑๔,๘๘๔.๕๐ บาท ขอให้ศาลบังคับ
จำเลยปฏิเสธว่าไม่ได้กู้เงินโจทก์และไม่ได้รับเงินไปจากโจทก์ตามฟ้อง สัญญากู้ปลอม จำเลยเคยกู้ก็ได้ใช้หมดแล้ว
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยใช้เงินให้โจทก์
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยได้ทำสัญญา ๒ ฉบับที่โจทก์ฟัองจริงและยังไม่ได้ชำระให้โจทก์ ข้อ ก.ม.ที่จำเลยต่อสู้ว่าการแปลงหนี้ใช้ไม่ได้นั้นเห็นว่าการที่จำเลยยอมเป็นลูกหนี้โจทก์ตามสัญญากู้ใหม่แล้ว ปัญหาเรื่องการยินยอมหรือการแจ้งการโอนหนี้เป็นหนังสือย่อมไม่มีเพราะจำเลยยอมเป็นหนังสือในตัวแล้ว ส่วนการที่โจทก์นำสืบว่าเดิมสัญญากู้ ๔ ฉบับไม่ใช่ ๒ ฉบับดังฟ้องนั้นก็เป็นการสืบถึงมูลหนี้ ไม่ใช่เป็นการนำสืบนอกฟ้องนอกประเด็นไม่ต้องห้ามตาม ก.ม.ศาลฎีกาพิพากษายืน.

Share