แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
หัวหน้ากองโรงเรียนรัฐบาลซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของกระทรวงศึกษาธิการมีอำนาจที่จะออกคำสั่งวางระเบียบการรับสมัครนักเรียนเข้าเรียนในโรงเรียนรัฐบาลโดยกำหนดคุณสมบัติและการสอบคัดเลือกไว้ได้ ไม่เป็นการละเมิดสิทธิของผู้ที่จะเข้าศึกษาในโรงเรียนรัฐบาลแต่อย่างไร
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ ๑ โดยความรู้เห็นยินยอมของจำเลยที่ ๑, ๒ ได้ออกหนังสือสั่งให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาของจำเลยทั้งสามหรือตัวแทนของจำเลยทั้งสามให้ปฏิเสธกีดกัน ขัดขวางโจทก์มิให้สอบคัดเลือก เพื่อเข้าเรียนในชั้นม.๑ ในปีการศึกษา ๒๕๐๐ เป็นการละเมิดสิทธิของโจทก์ตามรัฐธรรมนูญและปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิของมนุษยชน จึงขอให้จำเลยยกเลิกคำสั่งและจัดให้โจทก์เข้าเรียนหรือสมัครสอบคัดเลือกเข้าเรียนในชั้น ม.๑ ถ้าไม่สามารถจัดได้ ก็ให้จำเลยเสียเงินค่าเล่าเรียนให้โจทก์แทนจนจบชั้น ม.๖
จำเลยให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ละเมิดสิทธิของโจทก์ จำเลยสั่งห้ามโดยอาศัยกฎหมายรัฐธรรมนูญ
คู่ความขอให้ศาลวินิจฉัยชี้ขาดว่าจำเลยมีอำนาจที่จะสั่งห้ามตามคำสั่งที่ ๑๒๓๔๙/๒๔๙๙ หรือไม่
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยมีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการศึกษาตาม พ.ร.บ. ปรับปรุงกระทรวงทะบวงกรม พ.ศ. ๒๔๙๕ มาตรา ๒๔, ๒๕ คำสั่งที่ ๑๒๓๔๙/๒๔๙๙ เป็นการวางระเบียบการรับสมัครนักเรียนชั้น ม.๑ เข้าในโรงเรียนรัฐบาลในปีการศึกษา ๒๕๐๐ เป็นคำสั่งที่กำหนดคุณสมบัติของนักเรียนที่จะมีสิทธิเข้าสมัครสอบ เป็นคำสั่งที่ใช้แก่บุคคลทั่ว ๆ ไป ไม่ใช่คำสั่งที่เจาะจงแต่ตัวโจทก์คนเดียว ทั้งไม่ปรากฏว่า จำเลยจงใจหรือประมาทเลินเล่อทำต่อโจทก์ โดยผิดกฎหมายให้โจทก์เสียหาย เป็นการปฏิบัติตามอำนาจและหน้าที่ซึ่งรัฐธรรมนูญฯ แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. ๒๔๙๕ มาตรา ๔๒ วางนโยบาย ให้รัฐมีหน้าที่จัดระบบการศึกษาอบรม จำเลยจึงมีอำนาจที่จะออกคำสั่งที่โจทก์ขอให้ยกเลิกได้
พิพากษายืน