แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
หน้าที่นำสืบจำเลยต่อสู้ว่าได้ชำระบาญชีแบ่งกำไรกันแล้ว เป็นหน้าที่จำเลยต้องสืบ
ย่อยาว
เดิมนายมัน นางแมวเป็นโจทย์ฟ้องว่าตนเป็นหุ้นส่วนกับจำเลย ๆ ไม่ยอมคิดบาญชีมาเป็นเวลา ๙ ปีเศษ และจำเลยกลับเปลี่ยนยึ่ห้อเสียเพื่อฉ้อโกงโจทก์ จึงขอให้ศาลบังคับให้จำเลใช้ทุนและผลกำไรระวางคดีนี้นายมัน นางแมวตาย
ป.จำเลยให้การว่าเป็นหุ้นส่วนกับโจทก์จริงแต่โจทก์ออกจากหุ้นไปนายแล้วและได้รับเงินทุนกำไรไปแล้วโดยวิธีหักหนี้ที่โจทก์เป็นหนี้ในการซื้อเชื่อของแต่เงินทุนกำไรไม่พอ โจทก์ยังคงเป็นหนี้จำเลยอยู่อีก ๕๒ บาทเศษ และตัดฟ้องว่าโจทก์จะฟ้องขอถอนหุ้นโดยไม่ขอให้เลิกหุ้นไม่ได้
ข.จำเลยให้การว่าเป็นหุ้นส่วนจริง แต่มิได้มีการขัดขวางต่อการที่โจทก์กล่าวหา จึงไม่ต้องรับผิด
ศาลเดิมตัดสินให้โจทก์ใช้เงิน ๕๒ บาทเศษ
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าห้างหุ้นส่วนยังไม่เลิกกันแต่นายมัน นางแมวตายระวางคดี ห้างหุ้นส่วนจึงเลิกกันโดยนิติบัญญัติ จึงตัดสินให้คิดบาญชีแลหักค่าใช้จ่ายกันเสียใหม่
ศาลฎีกาตัดสินว่าเป็นหน้าที่จำเลยนำสืบว่าโจทก์จำเลยได้เลิกหุ้นกันและได้ชำระบัญชีกันเสร็จแล้ว ข้อนี้จำเลยสืบไม่สม ส่วนเงินทุนกำไรในปีแรกนั้นก็ไม่ปรากฎว่าได้หักกลบลบกันอย่างไร จำเลยแสดงหลักฐานไม่ได้แลข้อที่จำเลยต่อสู้ว่า โจทก์จะได้รับส่วนแบ่งเท่าไรนั้นข้อนี้ยังไม่มีการคิดบัญชีกัน ศาลอุทธรณ์จึงสั่งให้ชำระบัญชีเสียก่อนนั้นชอบแล้ว จึงตัดสินยืนตามศาลอุทธรณ์