แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลย 3 คนเมาสุราอาละวาด คนหนึ่งเข้าชกแล้วกอดคอผู้ตายไว้อีก 2 คน ใช้ดุ้นฟืนตี ผู้ตายถึงแก่ความตายดังนี้ถือว่าเป็นการฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา
ย่อยาว
จำเลยกำลังเมาสุราอาละวาดชกต่อยผู้คนอยู่ ผู้ตายเดินผ่านไป ค.จำเลยก็โดดชกผู้ตายด้วยสนับมือ แล้วกอดคอผู้ตายไว้ ม. จำเลยเข้าชกแล้วเอาดุ้นฟืนตีผู้ตาย ป. จำเลยก็เอาดุ้นฟืนตีผู้ตายด้วยเหมือนกัน ผู้ตายถึงแก่ความตายด้วยบาดแผลที่ถูกทำร้าย
ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยฐานสมคบกันฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าเป็นการต่างคนต่างทำจะว่าจำเลยสมคบกันทำร้ายเขาถึงตายไม่ได้ คงให้ลงโทษจำเลยตาม ม.๒๕๔
ศาลฏีกาตัดสินว่าที่ศาลอุทรณ์ฟังว่าจำเลยเข้าทำร้ายผู้ตายโดยด่วนไม่ทันคิดว่าช่วยกันทำร้ายนั้น ไม่เห็นฟ้องด้วย วิสัยมนุษย์การใช้ความคิดโดยด่วนย่อมไม่ช้ากว่าการกระทำ จำเลยทำร้ายผู้ตายรวดเร็วเพียงใดก็ย่อมใช้ความคิดได้เร็วเพียงนั้นว่าตนทำอะไรฉะเพาะคดีนี้กรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา โดยจำเลยคนหนึ่งเข้าชกต่อยและกอดผู้ตายไว้ อีกสองคนใช้ดุ้นฟืนเข้าตี ถ้าหากจำเลยต่างไม่ช่วยเหลือกันก็คงถึงตายได้ยากกว่า จำเลยจึงต้องรับผิดร่วมกันคือมีผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา ดั่งศาลชั้นต้นพิพากษามา