คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 384/2480

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

สามีอนุญาตให้ภรรยาไปบวชเป็นชีตามกฎหมายลักษณผัวเมียถือว่าขาดจากสามีภรรยากัน
จำเลยไปบวชเป็นชีอยู่ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ต้องถือว่ามีภูมิลำเนาอยู่จังหวัดนั้น จะฟ้องจำเลยขอให้เป็นบุคคลล้มละลายไม่ได้

ย่อยาว

เดิมจำเลยเป็นภรรยา ด.มีภูมิลำเนาอยู่ในกรุงเทพฯ เมื่อ พ.ศ.๒๔๗๖ จำเลยได้ขออนุญาต ด.สามีบวชเป็นชีไปอยู่ที่วัดในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยได้ตกลงแบ่งทรัพย์กันเรียบร้อยแล้ว ปรากฎว่าจำเลยได้เคยมากรุงเทพฯ ราว ๒ ครั้ง แต่พักอยู่ตามวัด มิได้เกี่ยวข้องกับ ด.ฉันท์ผัวเมียอีกเลย บัดนี้โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยเป็นบุคคลล้มละลายโดยกล่าวว่าจำเลยผิดสัญญาจำนองที่ดินแลจำเลยยังมีเจ้าหนี้อื่นอีกหลายราย
ศาลชั้นต้นเห็นว่าการที่จำเลยบวชเป็นชี ไม่มีกฎหมายบัญญัติให้ขาดจากสามีที่จำเลยอ้างว่ามีภูมิลำเนาที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ก็จำต้องถือภูมิลำเนาของสามี จึงพิพากษาให้จำเลยเป็นคนล้มละลาย
ศาลฎีกาเห็นว่าตามกฎหมายเก่าลักษณผัวเมียบทที่ ๓๙ หมายถึงการบวชชี ไม่มีกล่าวถึงภิกษุณีหรือสามเณรี เมื่อจำเลยไปบวชชีโดยได้รับอนุญาตจากสามี จำเลยกับสามีก็ขาดจากผัวเมียกัน จำเลยจึงไม่จำต้องถือภูมิลำเนาของสามี เห็นว่าจำเลยไปอยู่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ก่อนโจทก์ฟ้องตั้ง ๓ ปีโดยมีเจตนาจะอยู่ที่นั่นจนตาย แลจำเลยคงอยู่ที่นั่นตลอดมา แลนอกเขตต์ใช้กฎหมายล้มละลายมานานแล้ว โจทก์จะฟ้องขอให้จำเลยเป็นบุคคลล้มละลายไม่ได้ จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ ให้ยกฟ้องโจทก์

Share