แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ในปัญหาข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายที่จำเลยมิได้ต่อสู้โต้แย้งคัดค้านมาแต่ต้นแต่ประการใด ศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาย่อมรับไม่รับวินิจฉัย
ย่อยาว
คดีได้ความว่าจำเลยทำสัญญาขายไม้ยางซึ่งขึ้นอยู่ในที่ดินของจำเลยให้สามีโจทก์ ๒๑ ต้น ราคาต้อนละ ๑๐ บาท จำเลยได้รับเงินล่วงน่าไปจากสามีโจทก์ ๑๐๐ บาท นอกนั้นสัญญาจะชำระภายใน ๗ วัน เมื่อไม้นั้นได้ตัดทอนชักลากไปถึงท่าน้ำแล้ว ไม้รายนี้สามีโจทก์ได้ให้คนโค่นและตัดทอนออกได้ไม้ ๕๑ ท่อน และได้ตีตรายี่ห้อของสามีโจทก์ไว้ทุกท่อนแล้ว ต่อมาจำเลยกลับขัดขวางไม่ยอมให้โจทก์เสียภาษีและชักลากไม้ โจทก์จึงฟ้องคดีนี้ตามใบมอบอำนาจของสามีโจทก์ซึ่งได้ถูกเนรเทศออกไปจากประเทศไทยเสียแล้ว
ศ่ลชั้นต้นพิจารณาและพิพากษาให้จำเลยมอบไม้ให้โจทก์เสียภาษีต่อเจ้าพนักงานป่าไม้ต่อไป
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกาว่าดจทก์เป็นหญิงมีสามีไม่ได้รับอนุญาตจากสามีผู้เป็นคู่สัญญากับจำเลยจึงฟ้องจำเลยไม่ได้ ศาลฎีกาเห็นว่า ในฟ้องของโจทก์ก็มีความชัดว่าได้รับมอบอำนาจจากสามีผู้เป็นคู่สัญญากับจำเลยซื้อขายไม้รายพิพาทหนี้ อนุญาตให้ฟ้อง จำเลยมิได้ให้การต่อสู้โต้แย้งคัดค้านประการใดในข้อนี้ จึงไม่มีประเด็นจะวินิจฉัยถึงว่าดจทก์ไม่ได้รับมอบอำนาจหรืออนุญาตให้ฟ้องจำเลย ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าประเด็นข้อนี้มิได้ว่ากล่าวกันมาแต่ต้น จะยกขึ้นมาอ้างอิงในชั้นอุทธรณ์ไม่ได้นั้นเป็นการชอบด้วยมาตรา ๒๒๕ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งแล้ว จึงพิพากษายืน