คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 538/2498

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ฟ้องของโจทก์ข้อ 1. ระบุวันเวลาที่โจทก์ไปตัดไม้ ส่วนฟ้องข้อ 2. มีข้อความเพียงว่าเนื่องจากโจทก์ตัดไม้ในข้อ 1. จำเลยไปแจ้งความเท็จแก่เจ้าหน้าที่แต่มิได้ระบุวันเวลาไว้ แม้จะอ่านฟ้องข้อ 1,2 รวมกันก็ไม่ได้ความว่าจำเลยไปแจ้งในวันเวลาที่โจทก์ตัดไม้ จึงถือว่าฟ้องของโจทก์ไม่ปรากฎเวลาตามมาตรา 158 (5) ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ต้องยกฟ้อง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า ข้อ ๑. เมื่อเดือน ๙ ขึ้น ๙ ค่ำตรงกับวันที่ ๑๔ สิงหาคม ๒๔๙๖ เวลากลางวัน นายฉาบนางทอนโจทก์ตัดไม้ไผ่ ๓ ลำในที่ดินของนางพลอยมารดานายฉาบโจทก์ครอบครอง ข้อ ๒. เนื่องจากโจทก์ตัดไม้ไผ่ในข้อ ๑. จำเลยไปแจ้งเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่สถานีตำรวจภูธรว่า นายฉาบนางทอนโจทก์ลักตัดไม้ไผ่ในที่ดินในโฉนดของจำเลยไป ๓ ลำจำเลยไปพบพูดว่ากล่าวนายฉาบ นางทอน นายขาวโจทก์ถือมีดยื้อแย่งไม้ไผ่ที่นายฉาบนางทอนตัดจากจำเลยและจะฟันเป็นการชิงทรัพย์จากจำเลย ซึ่งจำเลยรู้ดีว่าเป็นข้อความเท็จข้อ ๓ เนื่องจากจำเลยแจ้งความตาม ข้อ ๒. ทำให้โจทก์ถูกเรียกตัวไปและถูกกักขัง ขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา ๑๕๘,๑๕๙,๒๗๐,๒๗๒ และมีคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมฟ้อง
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วสั่งว่าคดีมีมูลฉะเพาะ ม.๑๕๘ ให้ประทับฟ้อง ชั้นพิจารณาสืบพะยานโจทก์ไปหนึ่งปาก ศาลสั่งงดสืบพะยานพิพากษาว่าฟ้องของโจทก์ไม่เป็นฟ้องตามกฎหมาย โจทก์หาได้ระบุวันเวลาที่จำเลยไปแจ้งความเท็จไม่ ไม่ครบองค์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๕๘(๕) ให้ยกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกาว่าเมื่ออ่านฟ้องข้อ ๑. และข้อ ๒. รวมกันแล้วได้ความชัดว่าจำเลยไปแจ้งความในวันที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๔๙๖
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าฟ้องของโจทก์ระบุวันที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๔๙๖ เวลากลางวันไว้ในข้อ ๑. เป็นเรื่องกล่าวถึงวันและเวลาที่โจทก์ไปตัดไม้ไผ่ ส่วนฟ้องข้อ ๒. มีข้อความกล่าวเพียงว่าเนื่องจากโจทก์ตัดไม้ไผ่ในข้อ ๑. จำเลยไปแจ้งแก่เจ้าหน้าที่ ไม่มีข้อความระบุวันเวลาไว้แม้จะอ่านฟ้องข้อ ๑. และข้อ ๒. รวมกัน ก็คงไม่ได้ความชัดว่าจำเลยไปแจ้งความในวันที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๔๙๖ อยู่นั่นเอง ฟ้องของโจทก์ที่กล่าวหาว่าจำเลยกระทำความผิดคือแจ้งความเท็จจึงไม่ปรากฎเวลาตามมาตรา ๑๕๙ (๕) ป.วิธีพิจารณาความอาญา เป็นฟ้องไม่ถูกต้องตามกฎหมาย จึงพิพากษายืน

Share