คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 241/2484

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ขอแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องโดยจำเลยมิได้ขอแก้ไขเพิ่มเติมให้การ ถือว่าจำเลยปฏิเสธฟ้องเพิ่มเติมของโจทก์เมื่อโจทก์ไม่นำสืบให้สมครบองค์ความผิดตามกฎหมายแล้ว ศาลก็ยกฟ้องโจทก์

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยซึ่งเป็นผู้จัดการโรงพิมพ์บำรุงธรรมได้จัดพิมพ์หนังสือต่าง ๆ ละเมิดลิขสิทธิของผู้เป็นเจ้าของและพิมพ์ชื่อผู้อื่นและโรงพิมพ์อื่นเป็นผู้พิมพ์ ขอให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.การพิมพ์ พ.ศ.๒๔๗๖ และกฎหมายอาญา ม.๒๓๕
จำเลยให้การว่าตามฟ้องชองโจทก์เป็นความจริงทุกอย่าง แต่การที่จำเลยทำไปเพราะเจ้าของโรงพิมพ์สั่งให้ทำ
เมื่อจำเลยให้การแล้ว โจทก์ขอเพิ่มเติมฟ้อง โดยขอเพิ่มเติมคำว่า “ร้อยว่า” ลงในระหว่างโดยและไม่มีความชอบธรรมที่จะใช้พิมพ์ได้ลงในฟ้องข้อ (๑) ก.ข.ค.ง. ศาลอนุญาตให้แก้ การแก้ฟ้องของโจทก์นี้จำเลยไม่ขอแก้คำให้การใหม่ ขอถือคำให้การเดิม.
โจทก์ไม่ติดใจสืบพะยาน ส่วนจำเลยจะขอสืบแต่ศาลสั่งงดแล้วพิพากษาลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ.การพิมพ์ พ.ศ.๒๔๗๖ ม.๑๔,๓๕ กฎหมายอาญามาตรา ๒๓๕
จำเลยอุทธรณ์ สาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยยังไม่มีความผิดตามกฎหมายอาญา ม.๒๓๕ จึงพิพากษาแก้ศาลชั้นต้น คงลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ.การพิมพ์ พ.ศ.๒๔๓๖ มาตรา ๑๔,๓๕ ฐานเดียว
โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่าตามฟ้องเพิ่มเติมของโจทก์ที่เติมคำว่า “รู้อยู่ว่า” เข้าในฟ้องนั้นจำเลยยังมิได้ให้การประการใด ซึ่งเท่ากับจำเลยไม่ยอมให้การทั้งนี้ จำเลยกระทำได้ตามประมวลวิธีพิจารณาความอาญามาตรา ๑๗๒ ตามกฎหมายเมื่อจำเลยไม่ให้การก็เท่ากับจำเลยปฏิเสธเพราะฉะนั้นในคดีเรื่องนี้จึงเท่ากับจำเลยปฏิเสธในข้อ “รู้อยู่ว่า” ในเมื่อจำเลยไม่รู้ว่า ไม่มีความชอบธรรมที่จะใช้พิมพ์ได้ จำเลยก็มิได้กระทำผิดตามมาตรา ๒๓๕ จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์

Share