แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ชายหญิงเป็นสามีภริยากันมากว่า 20 ปี มีแต่เหตุระหองระแหง ไม่ราบรื่นตลอดมา โดยหญิงทำร้าย ด่า ขับไล่ และใช้ปัสสาวะสาดชาย แม้เหตุหย่าบางข้อ จะขาดอายุความ 3 เดือนก็ดี ก็ยังสนับสนุนเหตุหย่าที่ยังไม่ขาดอายุความได้ ตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 1509 วรรค 2 และเมื่อฟังได้ว่าหญิงทำการเป็นปฏิปักษ์ ต่อการเป็นสามีภริยากับชายอย่างร้ายแรง ชายก็มีสิทธิฟ้องหย่าขากจากการเป็นสามีภริยากับหญิงได้ ตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 1500 ( 3 )
ย่อยาว
คดีนี้ โจทก์ฟ้องขอหย่าขาดจากสามีภริยากับจำเลย และขอแบ่งสินสมรส
จำเลยต่อสู้ว่า คดีขาดอายุความ และต่อสู้ในเรื่องสินสมรส สินเดิน ฯลฯ
ศาลชั้นต้นพิพากษา ให้หย่าขาด และแบ่งสินสมรส ฯลฯ
โจทก์ จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เฉพาะเรื่องแบ่งสินสมรส
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาพิจารณาแล้ว ได้ความว่า โจทก์จำเลยเป็นสามีภริยากันมากว่า ๒๐ ปี มีแต่เหตุระหองระแหงไม่ราบรื่นตลอดมา โดยจำเลยทำร้ายด่า ขับไล่ และใช้ปัสสาวะสาดโจทก์ แม้เหตุหย่าตามที่ศาลแพ่งฟังมา ๒ ข้อจะขาดอายุความ ๓ เดือน ก็ยังสนับสนุนเหตุหย่าข้อ ๓ ที่ศาลแพ่งฟังมา ซึ่งยังไม่ขาดอายุความได้ ตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา ๑๕๐๒ วรรค ๒ คดีนี้ตามพฤติการณ์ระหว่างโจทก์จำเลยเท่าที่เป็นมาแสดงให้เห็นว่าจำเลยได้กระทำการเป็นปฎิปักษ์ต่อการเป็นสามีภริยากับโจทก์อย่างร้ายแรง โจทก์จึงมีสิทธิฟ้องหย่าขาดจากการเป็นสามีภริยากับจำเลยได้ ตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา ๑๕๐๐ ( ๓ ) ฯลฯ
จึงพิพากษายืน