คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 58/2497

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

บิดายกที่ดินและตึกแถว อันเป็นสินเดิมของบิดาให้แก่บุตรคนเดียว ซึ่งเกิดกับภริยาคนก่อนผู้เป็นมารดา-บุตรและถึงแก่กรรมไปแล้ว เนื่องจากที่ดินและตึกแถวนั้นเดิมเป็นสินสมรสระหว่างบิดากับมารดาผู้ถึงแก่กรรมไปแล้วนั้น ทั้งภริยาคนใหม่นี้ก็ไม่มีบุตรด้วยกัน ดังนี้ ย่อมถือได้ว่าเป็นการให้ตามสมควรในทางศีลธรรมอันดี ตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 1473 ( 3 ) จึงไม่ต้องได้รับความยินยอมจากภริยาก่อน

ย่อยาว

คดีนี้ โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากตึกของโจทก์ อ้างว่าจำเลยอาศัย
จำเลยต่อสู้ว่า ไม่ได้อาศัยตึกพิพาทเป็นสินบริคณห์ของจำเลยกับบิดาโจทก์
ศาลชั้นต้นพิพากษาขับไล่จำเลยกับบริวาร
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาพิจารณาแล้ว เห็นว่า ข้อเท็จจริงได้ความว่า บิดาโจทก์ยกที่ดินและตึกแถวรวมทั้งตึกพิพาทอันเป็นสินเดิมของบิดาโจทก์ ให้แก่โจทก์ในระหว่างที่จำเลยเป็นภริยาของบิดาโจทก์อยุ่ เมื่อปรากฎว่าทรัพย์สินดังกล่าวเดิมเป็นสินสมรสระหว่างบิดาโจทก์และมารดาโจทก์ มารดาโจทก์ตายแล้ว การที่บิดาโจทก์ยกทรัพย์ดังกล่าวให้โจทก์ผู้เป็นบุตรคนเดียว ย่อมเป็นการให้ตามสมควรในทางศีลธรรมอันดีแล้ว จึงไม่ต้องได้รับความยินยอมจากจำเลยผู้เป็นภริยา ตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา ๑๔๗๓ เมื่อที่ดินและตึกตกเป็นของโจทก์บิดาโจทก์ย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้ว โจทก์จึงย่อมมีสิทธิไม่ให้จำเลยอยู่ได้
จึงพิพากษายืน

Share