แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ยึดตัวเงินก่อนเจ้าหนี้อื่น ๆ ไม่ต้องเฉลี่ย
พ.ร.บ.ฎีกาอุทธรณ์ คนในบังคับเป็นลูกหนี้จะต้องส่งเงินศาลไทยธรรมดามีคำสั่งอาญัติได้
ลักษณพะยาน ข้อสันนิษฐานหากถ้อยคำที่ไม่มีในสำนวน
ย่อยาว
โจทก์ชนะความจึงขอให้ศาลสั่งบริษัทแองโกล (อังกฤษ) ลูกหนี้ของ จำเลยนำเงิน+เพียง ๒๐๐๐๐บาท เพื่อชำระหนี้ให้โจทก์ บริษัทรับว่าเป็นลูกหนี้จริง แต่ยังไม่ถึงกำหนดชำระ ศาลจึงสั่งอาญัติไว้ ต่อมาศาลเรียกบริษัทมาสอบถามอีก บริษัทรับว่าถึงกำหนดชำระแล้วและขอวางเงินเป็นตั๋วสัญญาใช้เงินในนามศาล ศาลจะสั่งรับหรืออย่างไรไม่ปรากฏแต่ศาลส่งสำนวนไปให้ศาลเจ้าหน้าที่สั่ง ต่อมามีเจ้าหนี้อื่นขอยึดเงินที่บริษัท บริษัทจึงทำเงิน๙๓๔๔๑ บาทเศษซึ่งหนี้จำเลยมาวางศาล โจทก์จึงขอรับเงิน ๒๐๐๐๐ บาท ก่อนเจ้าหนี้อื่น ๆ
ศาลเดิมให้เฉลี่ยเท่ากัน
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าโจทก์ยอมรับตั๋วใช้เงินหากแต่ศาลไม่ยอมรับไว้เท่านั้น(การที่ศาลไม่รับตั๋วนั้นไม่ได้จดรายงานไว้)ถ้ามิฉะนั้นแล้วเรื่องก็เป็นอันเสร็จไป เพราะในเวลานั้นเจ้าหนี้อื่น ๆ ยังไม่ได้ฟ้องคดีโจทก์ได้ทำถูกต้องทุกประการ ควรได้รับชำระหนี้ก่อนเจ้าหนี้อื่น ๆ
ศาลฎีกาตัดสินยืน และกล่าวว่าที่ศาลอุทธรณ์สันนิษฐานโดยไม่มีถ้อยคำในสำนวนนั้นเป็นการถูกต้องตามพฤตติการณ์แล้ว แลคำสั่งของศาลจังหวัดลำปางเมื่อเริ่มขออายัติเงินเป็นคำสั่งที่ชอบแล้ว เพราะเป็นคดีที่ชำระกันยังศาลไทยธรรมดาและบริษัทก็มิได้คัดค้านอำนาจศาลประการใด ทั้งยินยอมจะนำเงินมาชำระให้ ถ้าศาลยอมรับคดีก็จะเสร็จเด็ดขาดกันไปแล้ว