แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ลักโคแล้วมารับเงินค่าไถ่โดยเจ้าทรัพย์รู้แล้วว่าจำเลยเป็นผู้ลักเช่นนี้ไม่เป็นผิดฐานฉ้อ
พ.ร.บ.ฎีกาอุทธรณ์ ศาลเดิมลงโทษ 2 กะทง
ศาลอุทธรณ์ลงโทษกะทงเดียว ฎีกาได้ในกะทงที่ศาลอุทธรณ์ตัดสินยก
ย่อยาว
คดีนี้ศาลเดิมแลศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงยุตติต้องกันว่า จำเลยกับพวกลักโคของ น.ไป ๒ โค ครั้นแล้ว จำเลยกลับมารับเงิน ๘๐ บาทจาก น.โดยหลอกลวงว่าจะคืนโค น.หลงเชื่อให้เงินไป จำเลยไม่คืนดังนี้
ศาลเดิมลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์แลฐานฉ้อ
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยไม่ได้เอาคำเท็จมาหลอกลวง เจ้าทรัพย์ส่งเงินให้จำเลยเพื่อแลกโคคืน หาได้ผิดหลงไม่ จำเลยไม่มีผิดฐานฉ้อ คงผิดฉะเพาะลักทรัพย์
ศาลฎีกาเห็นว่า คำหลอกลวงจำเลยมิได้ประกอบด้วยเอาความเท็จมากล่าวเพราะโคมีอยู่ที่จำเลยจริง แม้เจ้าทรัพย์เองก็ทราบเทียบฎีกาที่ ๑๐๖๘/๒๔๗๓ เป็นบรรทัดฐาน จึงให้ยกฎีกาโจทก์ พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์