แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องว่าเมื่อวันที่ 6 จำเลยลักกระบือไป 1 ตัว ครั้นรุ่งขึ้นวันที่ 7 เจ้าทรัพย์จับกระบือของกลางได้จากผู้มีชื่อโดยจำเลยเป็นคนร้ายลักมาหรือรับกระบือไว้โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นของได้มาโดยการกระทำผิด ขอให้ลงโทษตามกฎหมายอาญา ม. 293, 321 ดังนี้เป็นฟ้องเคลือบคลุมทำให้จำเลยหลงต่อสู้คดี ต้องยกฟ้อง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องมีข้อความว่า เมื่อวันที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๔๘๐ จำเลยบังอาจลักกระบือของ ต. ไป ๑ ตัว ครั้นต่อมาวันที่ ๗ พฤษภาคม ๒๔๘๐ ต. นำเจ้าพนักงานจับกกระบือของกลางได้จาก ฮ. โดยจำเลยเป็นคนร้ายลักมาหรือรับกระบือนั้นไว้โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นของได้มาจากการกระทำผิด ขอให้ลงโทษตาม กฎหมายอาญา ม. ๒๙๓, ๒๙๔, ๓๒๑
จำเลยให้การปฏิเสธ ต่อสู้ว่าฟ้องของโจทก์เคลือบคลุม
ศาลฎีกาตัดสินว่าตามฟ้องของโจทก์ข้างต้นมีข้อเท็จจริงที่กล่าวไว้หลายนัย คือจำเลยเป็นผู้เอามาจากเจ้าของ หรือว่าจำเลยผู้เอามาฝาก ฮ. หรือว่าจำเลยเอามาแล้วเอามาฝากทั้ง ๒ อย่าง ซึ่งโจทก์มิได้กล่าวในฟ้องให้ประเด็นแน่นอนครั้นจำเลยคัดค้านโจทก์ก็ว่าฟ้องทั้งลักทรัพย์และรับของโจร และจะถือว่าวันที่ ๖ หรือ ๗ เป็นวันทำผิดก็ไม่เอาอย่างใดอย่างหนึ่ง ยากแก่การที่จำเลยจะสู้คดีอันเป็นเหตุที่จะทำให้จำเลยหลงได้ จึงพิพากษากลับศาลอุทธรณ์ให้ยกฟ้องโจทก์ตามศาลขั้นต้น