แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้รับโอนทราบสัญญานั้นต้องปฏิบัติตามคำรับรอง
ย่อยาว
ได้ความว่า เดิมจำเลยกับ ป. ต่างได้ปลูกสร้างห้องแถวรุกล้ำที่ซึ่งกันแลกัน ต่อมา ป. ตาย ต. รับมฤดก ป. ต. กับจำเลยทำหนังสือสัญญายกที่ดินที่ตนรุกล้ำให้แก่กันแลกัน ส่วน ต. ยอมยกที่ดินว่างเปล่าให้จำเลย ๔ แปลง จำเลยได้โอนที่ดินให้บ้างแล้ว ยังเหลือ ๓ แปลงที่ยังโอนให้ไม่ได้เพราะยังติดการจำนองอยู่ แต่ ต. ได้จดหมายถึงจำเลยให้เข้าปกครองที่นั้นตามความประสงค์ จำเลยได้ปกครองแลได้ปลูกห้องแถวขึ้น ต่อมา ต. ขายที่ดินของตนทั้งหมดให้โจทก์แลได้บอกแลชี้ให้ โจทก์ทราบว่ามีที่ดินอยู่ ๓ แปลง ซึ่งโจทก์จะต้องโอนให้จำเลย โจทก์ก็ยินยอมตกลงกันต่อหน้า ต. แล จำเลย โจทก์ได้โอนที่ให้จำเลยไปแล้ว ๑ แปลงยังเหลืออีก ๒ แปลง โจทก์ไม่โอนแลทิ้งให้จำเลยปกครองมาถึง ๘ ปีเศษ จึงกลับมาฟ้องขับไล่ จำเลยดังนี้
ศาลฎีกากลับศาลอุทธรณ์ว่า โจทก์ผู้รับโอนย่อมตกอยู่ในฐานะอย่างเดียวกับ ต. โจทก์มีน่าที่จะโอนที่หายนี้ให้แก่จำเลย โจทก์จะฟ้องขับไล่จำเลยหาได้ไม่ ให้ยกฟ้องโจทก์