คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 428/2483

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

พฤตติการณ์ที่ถือว่าจำเลยให้การรับสารภาพและคู่ความไม่ติดใจสืบพะยาน

ย่อยาว

คดีนี้โจทก์ฟ้อง ขอให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา ๒๕๔ ฐานทำร้ายร่างกายนายโล่มีบาดเจ็บโลหิตไหล
จำเลยยื่นคำให้การในครั้งที่ ๑ ว่าได้ใช้ไม้ตีศรีษะนายโล่จริง มีบาดเจ็บเล็กน้อยเพียงฟกซ้ำ ไม่มีโลหิตไหล
เมื่อจำเลยให้การเช่นนี้แล้วโจทก์แถลงขอให้สืบพะยานในข้อบาดเจ็บต่อไปศาลชั้นต้นให้เลื่อนคดีไป
จำเลยยื่นคำให้การอีกหนึ่งฉะบับมีข้อความอย่างฉะบับแรก เว้นแต่คำว่ามีบาดเจ็บเล็กน้อยฟกช้ำ ไม่มีโลหิตไหลนั้น แก้เป็นว่ามีบาดเจ็บเล็กน้อยตามฟ้องโจทก์
ในวันนั้นเองศาลชั้นต้นพิพากษาว่าโจทก์ฟ้องจำเลยให้การรับสารภาพจำเลยมีความผิดตามมาตรา ๒๕๔ จำคุก ๓ เดือน ปรับ ๕๐ บาท โทษจำให้รอการลงอาญาไว้คงปรับสถานเดียว
โจทก์อุทธรณ์ขอให้วางโทษจำเลยให้หนัก ไม่ควรรอการลงอาญาแก่จำเลยจำเลยมิได้อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยมิได้แถลงว่าไม่ติดใจสืบพะยานและโจทก์ก็ยังประสงค์จะสืบพะยายในข้อบาดเจ็บต่อไป ดังนี้ ศาลจะพิพากษาโดยไม่รอฟังการสืบพะยานของโจทก์จำเลยเสียก่อนไม่ได้ ให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ ศาลชั้นต้นดำเนินคดีไปตามกระบวนพิจารณา
จำเลยฎีกาศาลฎีกาเห็นว่าโจทก์อุทธรณ์ แต่เพียงว่าศาลชั้นต้นวางโทษจำเลยเบาไปและไม่ควรรอการลงอาญา แต่ จำเลยไม่ได้ อุทธรณ์ว่าที่ ศาลชั้นต้นไม่ได้สืบพะยานโจทก์ในข้อบาดเจ็บนั้นไม่ชอบ ขอให้สืบพะยานในข้อนี้ จึงเป็นว่า โจทก์พอใจแล้วในการที่ไม่ได้สืบพะยานโจทก์ส่วนจำเลยเล่าก็มิได้อุทธรณ์ซ้ำยังได้ยื่นคำแก้อุทธรณ์ ขอให้ พิพากษายื่นตามศาลชั้นต้นเมื่อเป็นดังนี้ก็ปริยายได้ว่าโจทก์จำเลยไม่ติดใจสืบพะยานตั้งแต่ศาลชั้นต้นทั้งในชั้นอุทธรณ์ ก็ไม่มีปัญหาเรื่องโจทก์จำเลย ขอสืบพะยานอย่างไร พิพากษาให้ย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษาเสียใหม่

Share