แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยทำผิดฐานเป็นตัวการแต่ปรากฏว่าจำเลยทำผิดฐานเป็นผู้สมรู้ในองค์ความผิดอันเดียวกัน ศาล ลงโทษ จำเลยฐานสมรู้ได้ไม่ขัดกับ ประมวล วิธีพิจารณาอาญา ม. 192 แม้ใน พ.ร.บ.การพะนัน พ.ศ. 2478 จะมิได้มีบัญญัติในเรื่องผู้สมรู้ก็ตาม ศาลยกกฎหมายอาญามาตรา 65 ขึ้นใช้ได้สำหรับความผิดอาญาทั้งหลายตาม พรบ อื่น ๆ เว้นแต่ใน พรบ นั้นจะได้กำหนดข้อจำกัดไว้เป็นอย่างอื่น
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษ จำเลยฐานเป็นตัวการลักเล่นการพะนันหวย ก.ข. แต่ทาง พิจารณาได้ความว่า จำเลยเป็นแต่เพียงผู้สมรู้ในการออกหวย
ศาลชั้นต้นสินลงโทษ จำเลย ฐานเป็นผู้สมรู้ในการออกหวย ก.ข. ตาม พรบ การพะนัน ๒๔๗๘ มาตรา ๑๒ กฎหมายลักษณ อาญา มาตรา ๖๕ จำคุก ๔ เดือน ๑๓ วัน ปรับ ๖๒๒ บาท ๒๑ สตางค์ ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน
จำเลยฎีกาว่า
(๑) ศาลพิพากษา ลงโทษ จำเลยฐานเป็นผู้สมรู้ไม่ตรงกับข้อหาของ โจทก์ซึ่งกล่าวหาว่าจำเลยกระทำผิดและขอให้ลงโทษฐานตัวการ
(๒) ศาลพิพากษา ลงโทษ จำเลยฐานสมรู้ในการลักเล่นการพะนันไม่ชอบ เพราะตาม พรบ การพะนันไม่มีบัญญัติเรื่องผู้สมรู้ไว้ด้วย
ศาลฎีกาเห็นว่า (๑) แม้ฟ้องโจทก์ กล่าวหาว่าจำเลยทำผิดฐานเป็นตัวการ แต่ปรากฏว่าจำเลยทำผิดในฐานสมรู้ในองค์ความผิดอันเดียวกัน ศาลลงโทษจำเลยได้ ไม่ขัดต่อประมวล กฎหมาย วิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๙๒
(๒) มาตรา ๖๕กฎหมายลักษณอาญาเป็นหลักทั่วไปอาจใช้ได้สำหรับความผิดอาญาทั้งหลายตาม พรบ อื่น ๆ เว้นแต่ใน พรบ นั้น ๆ จะได้กำหนดข้อจำกัดไว้เป็นอย่างอื่น