คดีฟ้องเรียกค่าเสียหายเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 มาตรา 97 มีกำหนดอายุความกี่ปี (วินิจฉัยตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 11437/2556 และ 14700/2557)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1691/2563
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชดใช้ค่าเสียหายอันเนื่องมาจากจำเลยบุกรุกที่ดินพิพาทอันเป็นทรัพยากรธรรมชาติซึ่งเป็นของรัฐ จำเลยจึงมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายให้แก่รัฐตามมูลค่าทั้งหมดของทรัพยากรธรรมชาติที่ถูกทำลาย สูญหาย หรือเสียหายไปนั้น ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 มาตรา 97 แม้ฟ้องจะอ้างให้จำเลยรับผิดชดใช้ค่าเสียหายในข้อหาหรือความผิดฐานกระทำละเมิดต่อโจทก์มาด้วยก็ตาม แต่ก็เป็นการบรรยายฟ้องเรียกค่าเสียหายซึ่งจำเลยในฐานะเป็นผู้กระทำหรือละเว้นการกระทำด้วยประการใดโดยมิชอบด้วยกฎหมาย อันเป็นการทำลาย ทำให้สูญหาย หรือเสียหายแก่ทรัพยากรธรรมชาติซึ่งเป็นของรัฐ และมีหน้าที่ต้องรับผิดต่อโจทก์ด้วยเช่นกัน คำฟ้องของโจทก์จึงเป็นการฟ้องขอให้จำเลยรับผิดทั้งในมูลละเมิดและมูลความรับผิดทางแพ่งฐานทำลายทรัพยากรธรรมชาติตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 มาตรา 97 ซึ่งมูลความรับผิดทางแพ่งฐานทำลายทรัพยากรธรรมชาติมิได้มีกฎหมายบัญญัติในเรื่องอายุความไว้โดยเฉพาะ จึงต้องใช้อายุความ 10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/30 เมื่อนับระยะเวลาตั้งแต่จำเลยบุกรุกเข้าครอบครองที่ดินพิพาทตั้งแต่วันที่ 8 กันยายน 2551 จนถึงวันที่ 8 กันยายน 2558 อันเป็นวันที่โจทก์ฟ้องคดี ยังไม่พ้นกำหนด 10 ปี คดีโจทก์จึงยังไม่ขาดอายุความ
แผนกคดีสิ่งแวดล้อม
กุมภาพันธ์ 2565