แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์คิดดอกเบี้ยร้อยละ 60 ต่อปีซึ่งเกินอัตราดอกเบี้ยตามป.พ.พ. มาตรา 654 และเป็นความผิดต่อ พ.ร.บ. ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา ฯ ข้อตกลงเรื่องดอกเบี้ยเป็นโมฆะ จำเลยไม่มีสิทธินำเงินดอกเบี้ยที่ชำระเกินไปหักเงินต้นให้ลดน้อยลงได้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 407
การจำนองมิได้กำหนดระยะเวลาไว้ เมื่อโจทก์บอกกล่าวบังคับจำนองแล้ว โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้อง และมีสิทธิคิดดอกเบี้ยได้ตั้งแต่วันที่จำเลยผิดนัดในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีตาม ป.พ.พ. มาตรา 224
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระหนี้ตามสัญญาจำนองพร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๑๕ ต่อปี ในต้นเงิน ๕๐,๐๐๐ บาท นับแต่วันทำสัญญาจนกว่าจะชำระเงินให้โจทก์เสร็จ หากไม่ชำระให้บังคับจำนองยึดที่ดินที่จำนองขายทอดตลาดชำระหนี้แก่โจทก์
จำเลยให้การว่าได้กู้เงินโจทก์จำนวน ๕๐,๐๐๐ บาท ตกลงให้ดอกเบี้ยร้อยละ ๑๕ ต่อปี และชำระดอกเบี้ยให้โจทก์แล้ว ๗,๕๐๐ บาท แต่เกิดโต้เถียงกัน จำเลยจึงชำระหนี้ให้โจทก์โดยโจทก์ออกใบรับเงินให้และนัดจดทะเบียนไถ่ถอนจำนองกัน แต่จำเลยทำใบรับเงินหายโจทก์จึงมาฟ้องคดีนี้ โจทก์ไม่เคยบอกกล่าวบังคับจำนอง สัญญาจำนองไม่มีกำหนดเวลาชำระหนี้ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินตามฟ้องให้โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละ ๑๕ ต่อปีนับแต่วันทำสัญญาจนกว่าจะชำระเสร็จให้แก่โจทก์ถ้าจำเลยไม่ชำระให้เอาทรัพย์จำนองออกขายทอดตลาดเอาเงินใช้หนี้ให้โจทก์
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยยังไม่ชำระเงินต้นให้โจทก์แต่ชำระดอกเบี้ยให้โจทก์แล้วเดือนละ ๒,๕๐๐ บาท รวม ๒ เดือนแล้ววินิจฉัยว่าโจทก์คิดดอกเบี้ยร้อยละ ๕ ต่อเดือนหรือร้อยละ ๒๐ ต่อปี ซึ่งเกินอัตราดอกเบี้ยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา ๖๕๔ และเป็นความผิดต่อพระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ. ๒๔๗๕ ข้อตกลงเรื่องดอกเบี้ยย่อมเป็นโมฆะจำเลยไม่มีสิทธินำเงินที่ชำระเกินไปจากอัตราสูงสุดตามกฎหมายไปหักเงินต้นให้ลดน้อยไปได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา ๔๐๗ การจำนองรายนี้โจทก์จึงไม่มีสิทธิคิดดอกเบี้ยจากจำเลย เมื่อการจำนองรายนี้ไม่ได้กำหนดระยะเวลาไว้และในการฟ้องบังคับจำนองคดีนี้โจทก์ได้บอกกล่าวบังคับจำนองแล้ว โจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง และจำเลยต้องชำระหนี้จำนองแก่โจทก์ ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยประเด็นนี้ชอบแล้ว แต่การคิดดอกเบี้ยให้นับแต่วันทำสัญญากู้เป็นการไม่ชอบเพราะฝ่าฝืนกฎหมายดังกล่าวแล้ว อย่างไรก็ตามโจทก์บอกกล่าวบังคับจำนองให้จำเลยชำระหนี้ภายในวันที่ ๑๕ มิถุนายน ๒๕๒๗ จำเลยผิดนัดไม่ชำระหนี้ โจทก์จึงมีสิทธิคิดดอกเบี้ยได้ตั้งแต่วันดังกล่าวในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๒๒๔
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยชำระเงิน ๕๐,๐๐๐ บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันที่ ๑๕ มิถุนายน ๒๕๒๗ เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ นอกจากที่แก้คงเป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ส่วนค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาเห็นควรเป็นพับ.