คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 999/2505

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คดีก่อน โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยโอนขายที่ดินให้โจทก์ คดีถึงที่สุดโดยจำเลยยอมขายที่ดินให้ แต่ต่อมาปรากฎว่า เนื้อที่ดินที่จำเลยยอมขายให้โจทก์ซึ่งว่ามี 59 ไร่ เศษนั้น วัดได้เพียง 21 ไร่เศษ โจทก์จึงมาฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้ ขอให้ลดราคาที่ดินลงตามส่วนจึงเป็นคนละประเด็นกับที่พิพาทกันในคดีก่อนไม่เป็นฟ้องซ้ำ
โจทก์บรรยายฟ้องว่า เนื้อที่ดินที่จำเลยตกลงขายให้โจทก์มี 59 ไร่เศษ แต่เมื่อรังวัดแล้วมีเพียง 21 ไร่เศษ จึงขอให้จำเลยลดราคาตามส่วน จำเลยมิได้ปฏิเสธความข้อนี้อย่างใด จึงต้องถือว่าจำเลยในข้อที่โจทก์อ้าง โดยโจทก์ไม่ต้องนำสืบในข้อนี้.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยสัญญาจะขายสวน ๑ แปลง เนื้อที่ ๕๙ ไร่เศษ ให้โจทก์ในราคา ๑๒,๐๐๐ บาท ต่อมาจำเลยบิดพลิ้ว โจทก์จึงฟ้องศาล จำเลยทำยอมขายสวนดังกล่าวให้โจทก์ ต่อมาจำเลยนำเจ้าพนักงานรังวัดที่ดินเพื่อโอนขายให้โจทก์ ปรากฎว่ามีเนื้อที่เพียง ๒๑ ไร่เศษ โจทก์ขอให้จำเลยลดราคาที่ดินตามส่วนที่ขาดไปในราค่าไร่ละ ๒๐๐ บาท จำเลยไม่ยอมจึงขอให้ศาลบังคับจำเลยโอนขายที่ดินให้โจทก์ราคาลงตามส่วนที่ขาด
จำเลยต่อสู้ว่า โจทก์ฟ้องซ้ำคดีแพ่งแดงที่ ๒๕/๒๕๐๒ ซึ่งโจทก์เคยฟ้องขอให้ขายสวนแปลงนี้ และจำเลยทำสัญญายอมขายให้โจทก์แล้ว
โจทก์จำเลยแถลงรับกันว่า คดีนี้เป็นคดีเดียวกับที่โจทก์เคยฟ้องจำเลยคดีแพ่งแดงที่ ๒๕/๒๕๐๒ ซึ่งคดีเสร็จเด็จขาดไปแล้ว และโจทก์จำเลยแถลงไม่ติดใจสืบพยาน
ศาลชั้นต้นเห็นว่า โจทก์ฟ้องคดีนี้ซ้ำคดีแพ่งแดงที่ ๒๕/๒๕๐๒ พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ไม่เป็นฟ้องซ้ำ แต่โจทก์ไม่นำสืบว่าเนื้อที่ดินพิพาทขาดไปจริงตามฟ้องหรือไม่ ทั้งจำเลยก็มิได้รับรองว่าขาดจริง จะฟังว่าที่พิพาทขาดไปตามฟ้องไม่ได้ พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกา เห็นว่าคดีนี้โจทก์ฟ้องจำเลยเกี่ยวกับจำเลยไม่สามารถจะส่งมอบที่ดินให้โจทก์เต็มจำนวนเนื้อที่ในสัญญา คือ ๕๙ ไร่เศษ จึงฟ้องขอให้จำเลยลดราคาขายที่ดินลงตามส่วนของเนื้อที่ดินที่ขาดไป โดยโจทก์ใช้ราคาตามเนื้อที่ดินที่มีอยู่จริงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๖๖ หาใช่ขอให้บังคับจำเลยขายที่ดินให้โจทกืตามประเด็นที่เคยพิพาทในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ ๒๕/๒๕๐๒ ไม่ จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาแพ่งมาตรา ๑๔๘
ปัญหาว่า โจทก์จะขอให้จำเลยปฏิบัติตามคำขอของโจท์ได้เพียงไรนั้น ปรากฎตามคำฟ้องของโจทก์ระบุเนื้อที่ดินที่จำเลยตกลงขายให้โจทก์มี๕๙ ไร่เศษ และเมื่อจำเลยนำเจ้าพนักงานไปรังวัดได้เนื้อที่เพียง ๒๑ ไรเศษ โจทก์ซื้อที่ดินของจำเลยในราคาไร่ละ ๒๐๐ บาทความข้อนี้จำเลยมิได้ให้การปฏิเสธอย่าง ปฏิเสธแต่ข้ออื่น ฉะนั้น ต้องถือว่า จำเลยในข้อที่โจทก์อ้างว่าเนื้อที่ดินขาดไป คดีจึงไม่มีประเด็นที่โจทก์จะต้องนำสืบในข้อนี้
พิพากษากลับ ให้จำเลยโอนขายที่ดินรายพิพาทให้โจทก์ โดยลดราคาที่ดินลงตามส่วนที่ขาดไป.

Share