แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ฎีกากล่าวข้อความแต่เพียงว่า จำเลยไม่เห็นพ้องด้วยคำพิพากษาศาลล่างจึงฎีกาเพื่อศาลสูงได้วินิจฉัยในเหตุผลของพยานทั้งสองฝ่ายประกอบคำพิพากษาล่างที่จำเลยฟังว่ายังมีการคลาดเคลื่อนต่อเหตุผลข้อเท็จจริงอยู่หลายประการ…… ที่จำเลยยังไม่สามารถคัดสำนวนไปประกอบทำฎีกาทันภายในกำหนดอายุความฎีกา จึงขอยื่นฎีกาไว้แต่เพียงย่อ ดังนี้ ฎีกามิได้ระบุข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายขึ้นอ้างอิงให้เห็นว่าคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์คลาดเคลื่อนข้อใด เป็นฎีกาที่มิได้เป็นไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 193, 225 ไม่เป็นฎีกาที่ชอบด้วยกฎหมาย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสี่ฐานปล้นทรัพย์โดยใช้ปืนยิงขู่และทำร้ายเจ้าทรัพย์เกิดอันตรายแก่กายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๔๐และให้คืนหรือใช้ราคาทรัพย์ที่ยังไม่ได้คืนด้วย
จำเลยทั้ง ๔ คนให้การรับสารภาพ แต่ต่อมาจำเลยที่ ๑ กลับปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาจำคุกจำเลยที่ ๒ ที่ ๓ ที่ ๔ คนละ๑๐ ปี จำคุกจำเลยที่ ๑ มีกำหนด ๑๓ ปี ๔ เดือน และให้ร่วมกันคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ที่ยังไม่ได้คืน
จำเลยทั้ง ๔ คนอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ ๑ ผู้เดียวฎีกา โดยกล่าวข้อความว่า จำเลยไม่เห็นพ้องด้วยคำพิพากษาศาลล่าง จึงฎีกาเพื่อศาลสูงได้วินิจฉัยในเหตุผลของพยานทั้งสองฝ่ายประกอบคำพิพากษาศาลล่างที่จำเลยฟังว่า ยังมีการคลาดเคลื่อนต่อเหตุผลข้อเท็จจริงอยู่หลายประการ…..ที่จำเลยยังไม่สามารถคัดสำนวนไปประกอบทำฎีกาทันภายในกำหนดอายุความฎีกา จึงขอยื่นฎีกาไว้แต่เพียงย่อดังนี้ ศาลฎีกาเห็นว่าฎีกาจำเลยไม่ได้ระบุข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายขึ้นอ้างอิงให้เห็นว่าคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์คลาดเคลื่อนในข้อใด เป็นฎีกาซึ่งมิได้เป็นไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๙๓, ๒๒๕ไม่เป็นฎีกาที่ชอบด้วยกฎหมาย
พิพากษายกฎีกาจำเลย