คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 989/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ยื่นคำร้องขอใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวต่อจำเลยซึ่งเป็นนายทะเบียนคนต่างด้าวเวลาล่วงเลยมา2ปีเศษแต่ไม่ปรากฏว่าจำเลยได้พิจารณาคำร้องของโจทก์ตามอำนาจหน้าที่แต่อย่างใดการที่จำเลยจะต้องส่งคำร้องไปให้กองทะเบียนคนต่างด้าวและภาษีอากรตรวจสอบก่อนตามระเบียบก็เป็นเรื่องภายในของจำเลยการปล่อยเวลาให้ล่วงเลยไปถึง2ปีเศษโดยไม่ได้คัดค้านดำเนินการอย่างใดในเรื่องนี้นั้นเป็นการชี้ชัดให้เห็นถึงความละเลยเพิกเฉยไม่ติดตามดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ที่มีอยู่ก่อให้เกิดความทุกข์ร้อนและเสียหายแก่โจทก์ถือได้โดยปริยายว่าจำเลยปฏิเสธที่จะออกใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวให้โจทก์เป็นการโต้แย้งสิทธิโจทก์มีอำนาจฟ้อง ตามมาตรา8แห่งพระราชบัญญัติการทะเบียนคนต่างด้าวพ.ศ.2493เป็นเพียงบทบังคับให้ผู้เสียสัญชาติไทยต้องไปร้องขอใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวจากนายทะเบียนท้องที่ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รู้หรือควรรู้ว่าตนได้เสียไปซึ่งสัญชาติไทยมิฉะนั้นจะต้องมีความผิดและต้องรับโทษทางอาญาตามมาตรา21เท่านั้นการ้องขอเมื่อพ้นระยะเวลาดังกล่าวมิได้ทำให้เสียสิทธิอันมีอยู่แล้วแต่อย่างใดโจทก์จึงมีสิทธิยื่นคำร้องขอได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2530 โจทก์ได้ยื่นคำร้องต่อจำเลยซึ่งเป็นนายทะเบียนคนต่างด้าวขอให้ออกใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวให้โจทก์ แต่จำเลยไม่ยอมออกให้จนกระทั่งวันที่ 2 พฤศจิกายน 2530 อ้างเหตุว่าให้ระงับไว้ก่อน อันเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ ขอให้บังคับให้จำเลยออกไปสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวให้โจทก์
จำเลยให้การว่า โจทก์ไม่ได้ยื่นคำร้องขอให้จำเลยออกใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวให้ภายในกำหนด 30 วัน นับแต่วันที่โจทก์รู้ว่าเสียสัญชาติ โจทก์จึงหมดสิทธิที่จะขอมีใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว จำเลยได้รับคำร้องขอมีใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวของโจทก์แล้ว จำเลยได้เสนอไปยังผู้บังคับการกองทะเบียนคนต่างด้าวและภาษีอากรเพื่อพิจารณาอนุมัติตามระเบียบของกรมตำรวจ ปัจจุบันจำเลยยังไม่ได้รับแจ้งผลการพิจารณา จำเลยไม่เคยปฏิเสธไม่ยอมออกใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวให้โจทก์ จำเลยยังไม่ได้โต้แย้งสิทธิของโจทก์ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยออกใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวให้โจทก์ ทั้งนี้เมื่อโจทก์ได้ยื่นคำร้องขอถูกต้องครบถ้วนตามที่กฎกระทรวงกำหนด
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์ยื่นคำร้องขอใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวต่อจำเลยตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2530 โดยเป็นการยื่นคำร้องขอถูกต้องครบถ้วนตามที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวงและนับแต่โจทก์ยื่นคำร้องดังกล่าวนับถึงวันฟ้องเป็นเวลาถึง2 ปีเศษแล้ว ก็ไม่ปรากฏว่าจำเลยได้พิจารณาคำร้อง ของโจทก์ตามอำนาจหน้าที่ในฐานะที่จำเลยเป็นนายทะเบียนคนต่างด้าวและภาษีอากรตามพระราชบัญญัติการทะเบียนคนต่างด้าว พ.ศ. 2493มาตรา 9 แต่อย่างใด การที่จำเลยกล่าวอ้างว่า จำเลยต้องส่งคำร้องขอของโจทก์ไปให้กองทะเบียนคนต่างด้าวและภาษีอากรตรวจสอบก่อนตามระเบียบ นั้น นอกจากระเบียบดังกล่าวเป็นเรื่องภายในของจำเลยแล้ว การปล่อยเวลาให้ล่วงเลยไปถึง 2 ปีเศษโดยไม่ปรากฏว่ามีการดำเนินการอย่างใดในเรื่องนี้นั้น เป็นการชี้ชัดให้เห็นถึงความละเลยเพิกเฉยไม่ติดตามดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ที่ตนมีอยู่ อันก่อให้เกิดความทุกข์ร้อนและเสียหายแก่โจทก์ ข้อแก้ตัวของจำเลยจึงไม่ชอบด้วยเหตุผลและฟังไม่ขึ้นกรณีย่อมถือได้โดยปริยายว่า จำเลยปฏิเสธที่จะออกใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวให้โจทก์ จึงเป็นการโต้แย้งสิทธิโจทก์แล้ว โจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง
ตามพระราชบัญญัติการทะเบียนคนต่างด้าว พ.ศ. 2493 มาตรา 8ที่ได้กำหนดให้คนสัญชาติไทยผู้เสียหายซึ่งสัญชาติไทยไม่ว่าด้วยเหตุใดให้ไปขอใบสำคัญประจำตัวจากนายทะเบียนท้องที่ที่ตนอยู่ภายในสามสิบวัน นับแต่วันที่ได้รู้หรือควรรู้ว่าตนได้เสียไปซึ่งสัญชาติไทย เป็นเพียงบทบังคับให้ผู้เสียสัญชาติไทยต้องไปร้องขอภายในกำหนดระยะเวลาดังกล่าว มิฉะนั้นจะต้องมีความผิดและต้องรับโทษทางอาญา ตามมาตรา 21 เท่านั้น การร้องขอเมื่อพ้นระยะเวลาดังกล่าว มิได้ทำให้เสียสิทธิอันมีอยู่แล้วแต่อย่างใด โจทก์จึงมีสิทธิยื่นคำร้องขอได้
พิพากษายืน

Share