แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
สิทธิไถ่ทรัพย์ที่ขายฝากคืน ไม่ใช่เรื่องใช้สิทธิฟ้องร้องอันเกี่ยวกับอายุความ จึงหาอาจขยายเวลาออกไปอีกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 186 ได้ไม่.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ ๑๓ พฤศจิการยน ๒๕๐๒ ขุนพินิศกูลพงศ์ ได้ขายฝากที่ดินสวนไว้กับจำเลยเป็นเงิน ๒๐,๐๐๐ บาท มีกำหนดไถ่คืนภายใน ๒ ปี ต่อมา วันที่ ๒๘ มิถุนายน ๒๕๐๔ ขุนพินิศกูลพงศ์ถึงแก่ความตาย ครั้นต่อมาเดือนธันวาคม ๒๕๐๔ โจทก์ได้ใช้สิทธิขอไถ่คืน จำเลยไม่ยอมให้ไถ่ ต่อมาเดือนมีนาคม ๒๕๐๔ โจทก์ในฐานะผู้จัดการมรดกได้ขอไถ่จากจำเลยอีก จำเลยก็ยังไม่ยอม โจทก์เห็นว่าที่ดินยังมิตกเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลย โจทก์มีสิทธิขอไถ่คืนจากจำเลยได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๘๖ จึงขอให้บังคับจำเลยยอมให้โจทก์ไถ่การขายฝาก
จำเลยให้การว่า ขุนพินิศกูลพงศ์ขายฝากที่ดินไว้กับจำเลยถูกต้องตามกฎหมายหลังจากขุนพินิศกูลพงศ์ตายแล้ว โจทก์และทายาทอื่นมิได้ใช้สิทธิไถ่ที่ดินคืน ปล่อยให้ล่วงพ้นเวลาจนที่ดินหลุดเป็นกรรมสิทธิ์ แก่จำเลยนับแต่วันที่ ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๐๔ จึงไถ่ไม่ได้
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วเห็นว่า โจทก์ใช้สิทธิขอไถ่การขายฝากเมื่อพ้อน ๒ ปีแล้ว จึงไม่มีสิทธิขอไถ่ พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ว่ามีสิทธิขอไถ่คืนได้ แม้จะขอไถ่เมื่อพ้น ๒ ปีตามสัญญาแล้วก็ตามเพราะผู้ขายฝากได้ตายภายในเวลากำหนดไถ่ถอน ๒ ปี กำหนดเวลาขายฝากตามสัญญาก็ย่อมขยายออกไปอีกหนึ่งปีนับแต่วันผู้ขายฝากตายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๘๖ ซึ่งโจทก์ก็ได้ใช้สิทธิขอไถ่ถอนภายใน ๑ ปี นับแต่วันผู้ขายฝากตายแล้ว ฉะนั้น โจทก์มีสิทธิขอไถ่ได้
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาตรวจสำนวนแล้ว ข้อเท็จจริงได้ความดังศาลล่างฟังมาว่า โจทก์ในฐานะทายาทและผู้จัดการมรดกของผู้ขายฝาก เพิ่งใช้สิทธิขอไถ่ที่ดินที่ขายฝากคืนจากจำเลยภายหลังจากเมื่อพ้นเวลา ๒ ปี ตามที่ระบุตกลงกันไว้ในสัญญาขายฝากแล้วจริง แต่ยังไม่พ้น ๑ ปีนับจากวันที่ผู้ขายฝากถึงแก่ความตาย และวันที่ผู้ขายฝากถึงแก่ความตายนั้นก็ยังอยู่ในกำหนดเวลาไถ่ถอน ๒ ปีตามสัญญาขายฝาก ข้อเท็จจริงดังนี้ ปัญหาว่า โจทก์ยังมีสิทธิที่จะขอไถ่ทรัพย์สินคืนได้หรือไม่ ศาลฎีกาพิจารณาแล้วเห็นว่า ขายฝากนั้นเป็นสัญญาซื้อขายชนิดหนึ่งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๙๑ กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินนั้นตกไปยังผู้ซื้อแล้ว แต่มีเงื่อนไขว่า ผู้ขายอาจไถ่หรือซื้อทรัพย์สินนั้นคืนได้ภายในกำหนดเวลาที่จะตกลงกันไว้ในสัญญา และกำหนดเวลาไถ่หรือซื้อคืนนั้นเมื่อได้ตกลงกำหนดกันไว้แล้วในสัญญาตามมาตรา ๔๙๖ จะขยายออกไปอีกในภายหลังหาได้ไม่ศาลฎีกาเห็นว่า สิทธิขอไถ่คืนหรือซื้อคืนตามข้อตกลงแห่งเงื่อนไขในสัญญาขายฝากดังวินิจฉัยมาแล้วนั้น เป็นสิทธิอันเกกิดขึ้นจากข้อตกลงของคู่กรณีที่ได้มีเจตนากำหนดเวลาให้ใช้สิทธิไถ่คืนกันไว้ตามสัญญาโดยนิติกรรม หาใช่เป็นกรณีเรื่องกำหนดเวลาใช้สิทธิฟ้องร้องอันเกิดแต่อายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์อันว่าด้วยลักษณะอายุความไม่ ฉะนั้น เมื่อกำหนดเวลาใช้สิทธิไถ่ถอนทรัพย์คืนตามสัญญาขายฝากไม่ใช่เรื่องใช้สิทธิฟ้องร้องอันเกี่ยวกับอายุความแล้ว ก็จะขยายเวลาออกไปอีกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๘๖ ดังโจทก์ฎีกาหาได้ไม่ ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น.
พิพากษายืน.