แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยหมิ่นประมาทโจทก์โดยกล่าวข้อ+ในอุทธรณ์คดีเรื่องก่อน+จำเลย ศาลตรวจ+แล้วเรียกสำเนา+อุทธรณ์คดีก่อนมาดูแล้วสั่ง+ฟ้องทีเดียวได้ +ที่ว่าข้อความในฟ้องอุทธรณ์เป็นข้อความอยู่นอก+ในประเด็นเป็นปัญหาข้อเท็จจริง +จะฟังข้อเท็จจริงโดยตรวจหลักฐานแต่เพียงชั้นเดียวหรือหลายชั้นก็ย่อมอยู่ดุลยพินิจของศาลจะเห็นสมควร
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยสมคบกันหมิ่นประมาทโจทก์ ศาลชั้นต้นตรวจฟ้องประกอบกับสำเนาฟ้องอุทธรณ์ที่โจทก์อ้างว่าจำเลยหมิ่นประมาทนั้นแล้วเห็นว่าข้อความที่โจทก์หาว่าหมิ่นประมาทหาใช้นอกเรื่องนอกประเด็นที่เถียงไม่ จึงพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์ไม่รับไว้พิจารณา ศาลอุทธรณ์คงพิพากษายืนตาม
โจทก์ฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย
ศาลฎีกาตัดสินว่า แม้ข้อความที่จำเลยกล่าวในฟ้องอุทธรณ์เดิมจะไม่เหมาะสมอยู่บ้างก็ดี ปัญหาชั้นนี้ก็มีว่าข้อความที่โจทก์กล่าวหาเป็นเรื่องในหรือนอกประเด็นโดยตรวจดูฟ้องอุทธรณ์อย่างเดียวได้หรือไม่ ซึ่งไม่มีกฎหมายบทใดห้ามไม่ให้ศาลฟังข้อเท็จจริงแต่เพียงชั้นเดียวหรือหลายชั้นก็ย่อมอยู่ในดุลยพินิจของศาล เมื่อศาลล่างทั้ง ๒ เห็นพ้องกันว่าตรวจดูฟ้องอุทธรณ์อย่างเดียวก็พอจะรู้ว่าเป็นข้อความนอกหรือในประเด็นแล้ว โจทก์ก็หามีอำนาจคัดค้านในชั้นฎีกาได้ไม่ ต้องห้ามตามประมวลวิธีพิจารณาอาญา ม.๒๑๙ ส่วนข้อค้านที่ว่าในชั้นตรวจฟ้องศาลจะสั่งยกฟ้องโดยอาศัยข้อเท็จจริงที่ไม่ได้กล่าวในฟ้องไม่ได้นั้น เห็นว่าศาลล่างทั้ง ๒ ก็อาศัยข้อความในฟ้องอุทธรณ์เดิมที่โจทก์ส่งนี้วินิจฉัยคดีข้อค้านของโจทก์ฟังไม่ขึ้น จึงพิพากษายืนตาม ให้ยกฎีกาโจทก์