แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ต่างฝ่ายต่างสมัคเข้าทำร้าย ตัวการต้องมีการสมคบ
ย่อยาว
นายภู่ กับ นายนิ่มต่างฝ่ายสมัคเข้าทำร้ายกันนายภู่มีไม้เปนอาวุธ นายนิ่มมีดาพทั้งสองฝ่ายมีบาดเจ็บด้วยกันคนละหลายแห่ง ในระหว่างที่ต่อสู้กันอยู่นี้ ท.คนใช้แล ป.ผู้เปนภรรยาของนายนิ่มซึ่งได้วิ่งตามมาพร้อมกับนายนิ่มได้เข้าช่วยนายนิ่มด้วยซึ่งนายภู่ก็คงถูกบาดเจ็บโดยคนสองคนนี้บ้าง เพราะปรากฎว่ามีดของคนทั้งสองนี้มีรองเปื้อนโลหิต ในที่สุดนายภู่วิ่งหนีนายนิ่มวิ่งตามไปได้หน่อยก็ขาดใจตาย นอกจากนี้นายภู่ยังได้แทงถูกลิ้น ป.มีบาดเจ็บ
ศาลอาญาแลศาลอุทธรณ์ตัดสินลงโทษนายภู่ ๒ กะทงฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาตามมาตรา ๒๕๑ จำคุก ๗ ปี ฐานทำร้ายร่างกาย ป. ตามมาตรา ๒๕๔ จำคุก ๑ ปี ฝ่าย ป. ท. มีผิดฐานทำร้ายร่างกายตามมาตรา ๒๕๔ จำคุก ป. ๓ เดือน ท. ๑ เดือน แต่ให้รอการลงอาญาไว้
นายภู่ฎีกาในถานะที่เปนโจทย์จำเลยว่าควรลงโทษนายภู่ตามมาตรา ๒๕๓ ป. และ ท.ใช้อาวุธทำร้ายนายภู่บาดแผลสาหัส ควรลงโทษ ป.ท.ตามมาตรา ๒๕๖
ฎีกาตัดสินว่า นายนิ่มตายด้วยบาดแผลที่นายภู่ทำร้ายที่ศาลล่างวางบท ๒๕๑ นั้นชอบแล้ว ส่วนข้อที่ขอให้ลงโทษ ป.ท. ตามมาตรา ๒๕๖ นั้นเห็นว่า นายภู่มีบาดแผลสาหัสบ้างไม่สาหัสบ้างและเหตุกระทำร้ายได้เกิดขึ้นโดยปัจจุบันโดย ป. ท. มิได้สมคบกับนายนิ่มมาแต่แรกอย่างหนึ่ง และอีกประการหนึ่ง การที่ ป. แล ท. เข้าช่วยก็เพราะเห็นนายนิ่มเปนสามีและเปนนาย เมื่อนายภู่แลพยานไม่รู้แน่ว่า ป. และ ท. ฟันถูกตรงไหนเปนบาดแผลสาหัสแล้ว ความผิดของ ป.ท. ก็เพียงฐานทำร้ายร่างกายตามกฎหมายอาญามาตรา ๒๕๔ จึงพิพากษายืนตามศาลล่างทั้งสอง