แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ที่ดินเพียงแต่แจ้งการครอบครองไว้ ยังไม่ได้รับคำรับรองจากนายอำเภอว่าได้ทำประโยชน์แล้ว ศาลจะพิพากษาให้จำเลยโอนให้โจทก์ไม่ได้ เพราะไม่ชอบด้วย พระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 มาตรา 9
การโอนไปซึ่งการครอบครองย่อมทำได้โดยส่งมอบการครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1378 ซึ่งศาลอาจพิพากษาให้จำเลยส่งมอบการครอบครองที่ดินให้โจทก์ได้ หากผู้รับโอนยึดถือทรัพย์สินอยู่แล้ว การโอนไปซึ่งการครอบครองจะทำเพียงการแสดงเจตนาก็ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1379
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของนายแดง ปานบุญ เมื่อวันที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๑๐ นายแดง ปานบุญ ตกลงแบ่งขายที่ดินสวนยางแปลง ส.ก.๑ เลขที่ ๒๑๙ ตำบลอินดีรี กิ่งอำเภอพรหมคีรี จังหวัดนครศรีธรรมราช ทางทิศใต้ ๔ ไร่เศษ ให้โจทก์ในราคา ๒,๘๐๐ บาท นายแดงได้รับเงินมัดจำจากโจทก์ไปแล้ว ๑,๗๐๐ บาท และนายแดงได้มอบที่ดินสวนยางที่แบ่งขายให้โจทก์เข้าครอบครองทำประโยชน์นับแต่วันทำสัญญาจะซื้อขาย ต่อมาวันที่ ๑๐ ธันวาคม ๒๕๑๐ นายแดงขอให้โจทก์ชำระค่าที่ดินที่ยังขาดอยู่ ๑,๑๐๐ บาท และขอมอบที่ดินให้โจทก์เป็นสิทธิขาด กับจะไปจดทะเบียนโอนให้ภายใน ๒ เดือน โจทก์จึงตกลงชำระค่าที่ดินที่เหลืออีก ๑,๑๐๐ บาท ให้นายแดงโดยทำเป็นสัญญากู้ให้ไว้ ต่อจากนั้นโจทก์เข้าครอบครองทำประโยชน์ในที่ดิน ในฐานะเป็นเจ้าของตลอดมา โจทก์ติดตามให้นายแดงจดทะเบียนโอนที่ดินสวนยางให้โจทก์ แต่นายแดงขอผัดผ่อนเรื่อยมา โดยแจ้งว่าได้สละสิทธิให้โจทก์ครอบครองแล้วจะโอนเมื่อไรก็ได้ ครั้นเมื่อ พ.ศ.๒๕๑๖ นายแดงตาย โจทก์ติดต่อจำเลยในฐานะผู้รับมรดของนายแดงให้ไปจดทะเบียนโอนที่ดินสวนยางให้โจทก์ จำเลยขอผัดผ่อนว่าขอรับมรดกก่อน แต่เมื่อจำเลยรับมรดกแล้ว กลับไม่ยอมไปจดทะเบียนโอนที่ดินสวนยางให้โจทก์ ขอให้ศาลพิพากษาให้จำเลยไปจดทะเบียนโอนขายที่ดินตามฟ้องให้โจทก์ ถ้าจำเลยไม่สามารถโอนขายได้ ให้ถือคำพิพากษาของศาลแทนการแสดงเจตนาของจำเลย ถ้าจำเลยโอนให้โจทก์ไม่ได้ ให้จำเลยใช้ค่าที่ดินให้โจทก์ ๖,๐๐๐ บาท
จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้จำเลยไปจดทะเบียนโอนแบ่งขายที่ดินสวนยางตามฟ้องให้โจทก์ หากจำเลยไม่ไปโอน ให้ถือเอาคำพิพากษาของศาลแทนการแสดงเจตนาของจำเลย
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่ดินตามฟ้องเป็นเพียงที่ดินที่นายแดงแจ้งการครอบครองไว้เท่านั้น ยังไม่ใช่ที่ดินที่ได้รับคำรับรองจากนายอำเภอว่าได้ทำประโยชน์แล้ว ศาลจะพิพากษาให้จำเลยโอนที่ดินตามฟ้องให้โจทก์ไม่ได้ เพราะไม่ชอบด้วยพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.๒๔๙๗ มาตรา ๙ แต่การโอนไปซึ่งการครอบครองย่อมทำได้โดยส่งมอบการครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๓๗๘ ซึ่งศาลอาจพิพากษาให้จำเลยส่งมอบการครอบครองที่ดินตามฟ้องให้โจทก์ได้ หากผู้รับโอนยึดถือทรัพย์สินอยู่แล้ว การโอนไปซึ่งการครอบครองจะทำเพียงการแสดงเจตนาก็ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๓๗๙
พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์เป็นว่า ให้จำเลยส่งมอบการครอบครองที่ดินตามฟ้องให้โจทก์ด้วยการแสดงเจตนา หากจำเลยไม่ปฏิบัติตาม ให้ถือคำพิพากษาของศาลเป็นการแสดงเจตนาของจำเลย