แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทฟ้องขอไห้จำเลยคืนสินเดิมสินบริคนห์ไห้แก่โจท แต่ไนคำฟ้องมิได้สแดงไห้ชัดว่า สินเดิมคืออะไรราคาชนิดไหนเท่าไดและสินบริคนห์ก็มิได้สแดงว่าเปนอะไรบ้างราคาเท่าไดเช่นนี้ ถือว่าเปนคำฟ้องที่ไม่สแดงสภาพแห่งข้อหาไห้ชัดแจ้ง ม.172 โจทยื่นบัญชีรายละเอียด แต่ได้ยื่นเมื่อสืบพยานโจท บัญชีรายละเอียดนั้นย่อมไม่เปนส่วนหนึ่งของฟ้องตามกดหมาย
ย่อยาว
โจทฟ้องว่าสินเดิมของโจทคือเงินกองทุน ๘๐๐ บาทและเครื่องอาภรน์เพ็ชร์พลอยต่าง ๆ รวมเปนเงิน ๑๐,๐๐๐ บาทได้สูญไปไนระหว่าสมรสกับจำเลยที่ ๑ เมื่อพระยาดำรงธัมสารวายชนม์มีสินบริคนห์ตกหยู่ที่จำเลยที่ ๑ ประมาน ๑๙,๒๐๐ บาท จำเลยมีหน้าที่ต้องคืนเงิน ๑๐,๘๐๐ บาทไห้โจท
จำเลยไห้การต่อสู้ว่าฟ้องโจทเคลือบคลุมเพราะไม่ระบุทรัพย์สินเดิมมีอะไรบ้างและสินบริคนห์ที่ตกหยู่กับจำเลยก็ไม่ได้กล่าวไห้ชัดว่ามีอะไรบ้าง เปนเหตุไห้จำเลยเสียเปรียบไนทางคดี
สาลชั้นต้นพิจารนาแล้วพิพากสายกฟ้องสาลอุทรน์พิพากสาแก้ไห้จำเลยที่ ๑ ไช้เงิน ๑๐,๘๐๐ บาทราคาสินเดิมของโจทที่พระยาดำรงธัมสารจำหน่ายไป
จำเลยที่ ๑ ดีกาสาลดีกาเห็นว่าฟ้องโจทกล่าวแต่เพียงว่าสินเดิมของโจทคืออาภรน์เพ็ชร์พลอยราคา ๑๐,๐๐๐ บาท ไม่สแดงไห้ชัดว่าเปนอาภรน์ชนิดได ราคาชนิดไหนเท่าได ทั้งทรัพย์สินบริคนห์ที่ว่ากตหยู่ที่จำเลยโจทก็ไม่ได้สแดงไนฟ้อง่าเปนอะไรบ้างราคาเท่าไดตามที่สาลอุทรน์อ้างว่าโจทยื่นบัญชีหมายเลข ๑๘ สแดงรายละเอียดสินเดิมนั้นก็ปรากตว่า โจทยื่นเมื่อขั้นสืบพยานโจท จึงไม่เปนส่วนหนึ่งของฟ้อง เพราะเปนการพายหลังจำเลยยื่นคำไห้การและสาลสั่งไนเรื่องหน้าที่นำสืบแล้ว ฉนั้นที่สาลอุธรน์ให้โจทชนะไนคำฟ้องที่ไม่สแดงสถาพแห่งข้อหาแจ้งขัดตามที่กดหมายบังคับจึงเปนการไม่ชอบ พิพากสาแก้ไห้บังคับคดีตามคำพิพากสาชั้นต้นที่ไห้ยกฟ้องทุกข้อ
