คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 975/2510

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

กระบือของจำเลยหลุดไป จำเลยทราบแต่ไม่ติดตามทันที กระบือลงไปนอนแช่น้ำในลำคลองสาธารณะ แม้จำเลยจะประมาทด้วย แต่ความเสียหายหาได้เกิดเพราะความประมาทของจำเลยแต่ฝ่ายเดียวไม่ หากเกิดเพราะโจทก์ขับเรือยนต์ด้วยความเร็วจึงชนเอากระบือเข้า กระบือบาดเจ็บ เป็นความประมาทของโจทก์ด้วย โจทก์จึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนความเสียหายให้แก่จำเลย โดยให้หักความเสียหายอันเกิดเพราะความประมาทของจำเลยออกเสียก่อน

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ขับขี่และควบคุมเรือยนต์เครื่องติดท้ายเพลายาวไปในลำคลองอันเป็นทางสาธารณะ จำเลยปล่อยให้กระบือของจำเลย ๓ ตัวลงนอนแช่น้ำขวางลำคลองโดยจำเลยมิได้อยู่ควบคุม เมื่อโจทก์ขับเรือใกล้ถึงกระบือ โจทก์ได้เบาเครื่องยนต์เมื่อเรือผ่านฝูงกระบือ กระบือตัวหนึ่งได้ขวิดเรือเสียหาย ขอให้จำเลยชดใช้
จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่ากระบือของจำเลยตัวเดียวเชือกที่ผูกขาดจึงไปนอนแช่น้ำอยู่ที่ริมคลองฝั่งซ้าย โจทก์ขับเรือด้วยความเร็วสูงและประมาทมาชนเอากระบือเข้าเอง กระบือไม่มีส่วนก่อความเสียหายนี้ เรือโจทก์ชนกระบือจนกระบือมีบาดเจ็บ ขอให้โจทก์ใช้ค่าสินไหมทดแทนความเสียหายนี้
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ยกฟ้องแย้งและให้จำเลยใช้ค่าเสียหายให้โจทก์
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องของโจทก์ และให้โจทก์ใช้ค่าเสียหายให้จำเลย
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า กระบือของจำเลยหลุดจากเชือกที่ผูกไป จำเลยทราบแต่ไม่ติดตามทันที กระบือลงไปแช่น้ำอยู่ในคลองสาธารณะ อันเป็นความประมาทของจำเลยด้วยก็ดี แต่ความเสียหายหาได้เกิดขึ้นเพราะความประมาทของจำเลยแต่ฝ่ายเดียวไม่หากเกิดเพราะโจทก์ขับเรือด้วยความเร็วสูง จึงไปชนเข้ากับกระบือ กระบือบาดเจ็บและเรือเสียหาย อันเกิดจากความประมาทของโจทก์ด้วยแล้ววินิจฉัยว่า กรณีไม่ใช่เหตุสุดวิสัยหรือเกิดเพราะความผิดของจำเลย โจทก์ต้องใช้ค่าเสียหายให้แก่จำเลยโดยหักจำนวนความเสียหายอันเกิดเพราะความประมาทของจำเลยออกเสียก่อน
พิพากษายืน.

Share