แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
การประเมินราคาทรัพย์ที่เจ้าพนักงานบังคับคดียึดเพื่อดำเนินการบังคับคดีต่อไปนั้น การที่จะประเมินราคาเท่าใดยังไม่มีข้อผูกมัดผู้ที่มีส่วนได้เสียในการบังคับคดี จึงยังไม่มีกรณีที่เป็นการโต้แย้งสิทธิของผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีที่จะร้องขอต่อศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 วรรคสองที่ศาลชั้นต้นรับคำร้องดังกล่าวของจำเลยไว้พิจารณาและศาลอุทธรณ์รับวินิจฉัยปัญหาตามที่อุทธรณ์มานั้นจึงเป็นการไม่ชอบ ปัญหาที่จำเลยฎีกาจึงมิใช่ปัญหาที่ว่ากันโดยชอบในศาลชั้นต้นและในศาลอุทธรณ์ตามมาตรา 249 วรรคแรก ศาลฎีกาย่อมไม่รับวินิจฉัย
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากเจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์ของจำเลยที่ 1รวม 16 รายการ และคำนวณกำหนดราคาทรัพย์เป็นเงิน 3,163,000 บาท
จำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องคัดค้านว่า ราคาทรัพย์ที่เจ้าพนักงานบังคับคดีกำหนดต่ำเกินไป โดยราคาทรัพย์ควรจะเป็นเงิน 6,108,000 บาทขอให้ถือเป็นเกณฑ์ในการขายทอดตลาด
โจทก์ยื่นคำแถลงคัดค้านว่า ราคาทรัพย์ที่เจ้าพนักงานบังคับคดีกำหนดใกล้เคียงกับราคาทรัพย์ที่โจทก์ประเมินไว้ ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้ว มีคำสั่งให้ยกคำร้อง
จำเลยที่ 1 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน
จำเลยที่ 1 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีนี้ยังไม่มีการขายทอดตลาด จำเลยยื่นคำร้องคัดค้านราคาทรัพย์ที่เจ้าพนักงานบังคับคดีประเมินราคาไว้เห็นว่าการประเมินราคาทรัพย์ที่เจ้าพนักงานบังคับคดียึดเพื่อดำเนินการบังคับคดีต่อไปนั้น การที่จะประเมินราคาเท่าใดยังไม่มีข้อผูกมัดผู้ที่มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีจึงยังไม่มีกรณีที่เป็นการโต้แย้งสิทธิของผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีที่จะร้องขอต่อศาลได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 วรรคสองดังนั้น จำเลยจึงไม่อาจจะยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อคัดค้านการประเมินราคาของเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ตามบทกฎหมายข้างต้น ที่ศาลชั้นต้นรับคำร้องของจำเลยไว้พิจารณาและศาลอุทธรณ์ภาค 2 รับวินิจฉัยปัญหาตามที่อุทธรณ์มานั้น จึงเป็นการไม่ชอบ ปัญหาที่จำเลยฎีกามาจึงมิใช่ปัญหาที่ว่ากันโดยชอบในศาลชั้นต้น และในศาลอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 วรรคแรกศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย”
พิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้น คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2และยกฎีกาจำเลย