คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 970/2507

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยต้องคำพิพากษาจำคุกในความผิดฐานเล่นการพนัน แต่ศาลให้รอการลงโทษจำคุกไว้ จำเลยมากระทำผิดฐานเล่นการพนันอีกในระหว่างที่ศาลรอการลงโทษจำคุก จะเพิ่มโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติการพนัน(ฉบับที่ 3)พ.ศ.2485 มาตรา 3 ไม่ได้ เพราะเมื่อยังอยู่ในระหว่างที่ศาลรอการลงโทษ จะเรียกว่าจำเลยพ้นโทษแล้วไม่ได้
ตามที่ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 บัญญัติว่า ไม่ปรากฏว่าผู้นั้นได้รับโทษจำคุกมาก่อนนั้น หมายความว่า จำเลยไม่ได้รับโทษจำคุกมาก่อนคดีที่ศาลกำลังจะพิพากษา คดีที่จำเลยได้รับโทษจำคุกนั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นการกระทำผิดก่อนคดีที่ศาลจะพิจารณา

ย่อยาว

คดีนี้โจทก์ฟ้อง จำเลยให้การรับสารภาพ ข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติว่าจำเลยทั้งสามกับพวกซึ่งโจทก์ได้ฟ้องแล้วตามคดีแดงที่ ๗๑/๒๕๐๖ บังอาจร่วมกันเล่นการพนันไพ่แปดเก้า พนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน ก่อนคดีนี้จำเลยที่ ๒ เคยต้องคำพิพากษาคดีถึงที่สุดแล้ว ฐานเล่นการพนันไฮโลว์ ถูกจำคุก ๔๕ วันปรับ ๔๐ บาท โทษจำรอไว้ ๑ ปีจำเลยพ้นโทษยังไม่ครบ ๓ ปี มากระทำผิดในคดีนี้อีก และจำเลยที่ ๒ กำลังต้องโทษในความผิดฐานเล่นการพนันกุ้งปลา ตามคดีแดงที่ ๓๐๙/๒๕๐๖ ขอให้นับโทษต่อและขอเพิ่มโทษ
ศาลชั้นต้นจำคุกจำเลยคนละ ๖ เดือนปรับคนละ ๘๐๐ บาทลดตามมาตรา ๗๘ คงจำคุก ๓ เดือนปรับ ๔๐๐ บาท โทษจำรอไว้ ๓ ปี
โจทก์อุทธรณ์ขอให้เพิ่มโทษจำเลยที่ ๒ ฐานไม่เข็ดหลาบทวีคูณ ไม่รอการลงโทษจำเลยที่ ๒ และให้นับโทษต่อจากโทษในคดีอาญาแดงที่ ๓๐๙/๒๕๐๖ ด้วย
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นให้จำคุกจำเลยที่ ๒ หกเดือนปรับ ๘๐๐ บาท และให้เพิ่มโทษตามมาตรา ๑๔ ทวิ(๑) เป็นโทษจำคุก ๑ ปี ปรับ ๑,๖๐๐ บาท ลดรับสารภาพตามมาตรา ๗๘ คำจำคุก ๖ เดือน ปรับ ๘๐๐ บาท ให้นับโทษต่อจากคดีแดงที่ ๓๐๙/๒๕๐๖
จำเลยที่ ๒ ฎีกาว่า จำเลยยังไม่พ้นโทษจึงวางโทษทวีคูณในคดีนี้ไม่ได้ และจำเลยไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน ศาลรอการลงโทษจำเลยได้
ศาลฎีกาพิจารณาแล้วเห็นว่า จำเลยที่ ๒ กระทำผิดคดีนี้ในระหว่างรอการลงโทษจำคุกในคดีก่อน ก็ต้องถือว่ายังไม่พ้นโทษ เพราะโทษจำคุกที่ศาลรอการลงโทษ แม้จำเลยยังไม่ได้รับก็จริง แต่เมื่อยังอยู่ในระหว่างที่รอการลงโทษ ก็ไม่เรียกว่าพ้นโทษไปแล้ว จะเพิ่มโทษจำเลยที่ ๒ ตามพระราชบัญญัติการพนัน(ฉบับที่ ๓) พ.ศ.๒๔๘๕ มาตรา ๓ ไม่ได้ ตามนัยคำพิพากษาฎีกาที่ ๒๗๘/๒๕๐๖ ระหว่างผู้ว่าคดีศาลแขวงสงขลา โจทก์ นายหรุ่น กับพวกจำเลย
จำเลยที่ ๒ ขอให้รอการลงโทษจำคุก โดยอ้างว่าโทษจำคุกที่จำเลยกำลังได้รับอยู่ตามคดีแดงที่ ๓๐๙/๒๕๐๖ เหตุเกิดภายหลังคดีนี้ จึงถือว่าจำเลยได้รับโทษจำคุกมาก่อนไม่ได้นั้น ศาลฎีกาเห็นว่า ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๕๖ บัญญัติว่า ศาลจะรอการลงโทษได้ต่อเมื่อไม่ปรากฏว่าผู้นั้นได้รับโทษจำคุกมาก่อน คำว่า ไม่ปรากฏว่าผู้นั้นได้รับโทษจำคุกมาก่อน หมายถึงว่า ไม่ได้รับโทษจำคุกมาก่อนคดีที่ศาลกำลังจะพิพากษา ประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๕๖ มิได้ระบุว่า คดีที่จำเลยได้รับโทษจำคุกมาก่อนนั้น ต้องเป็นการกระทำผิดมาก่อนคดีเรื่องหลัง จึงไม่มีทางแปลกฎหมายดังที่จำเลยอ้าง
พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์เป็นว่า ให้จำคุกจำเลยที่ ๒ หกเดือน ปรับ ๘๐๐ บาท จำเลยที่ ๒ ให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๗๘ คงให้จำคุกจำเลยที่ ๒ สามเดือน ปรับ ๔๐๐ บาท นอกจากที่แก้นี้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share