คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 94/2493

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เจ้าหนี้ของผู้ตายจะต้องเรียกร้องให้ชำระหนี้จากทรัพย์มรดกของลูกหนี้ใน 1 ปี นับแต่ลูกหนี้ตาย แม้สัญญาที่ผู้ตายซึ่งเป็นลูกหนี้ทำไว้ยังไม่ถึงกำหนดชำระ โจทก์ก็มีสิทธิฟ้องได้
แม้ทายาทของผู้ตายซึ่งเป็นลูกหนี้โจทก์จะเอาทรัพย์มรดกของผู้ตายไปเป็นความกันอย่างไร โจทก์ก็ฟ้องทายาทให้ชำระหนี้โจทก์ได้ ส่วนที่ทายาทเอาทรัพย์มรดกของผู้ตายไปเป็นความกันนั้น ไม่มีในฟ้องและคำให้การ จึงเป็นเรื่องนอกประเด็น

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า อ. ได้ทำสัญญากู้เงินโจทก์ไป 3,000 บาทเอาที่ดินในโฉนดเลขที่ 1679 ซึ่งจำนองไว้แก่โจทก์แล้วนั้นเป็นประกัน กำหนดใช้ใน 1 ปี ในปีเดียวกับที่กู้เงินนั้นอ.ตาย โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นบิดาจำเลยที่ 2 เป็นภริยาส่วนจำเลยที่เป็นเด็ก3 คนเป็นบุตรให้ใช้ต้นเงินและดอกเบี้ยจำเลยให้การว่า อ.ไม่ได้กู้เงินโจทก์ และสัญญายังไม่ครบกำหนด

ศาลชั้นต้นฟังว่า อ.กู้เงินโจทก์จริง นอกจากที่ดินแปลงนี้แล้ว อ.ไม่มีทรัพย์มรดกอื่นอีก แต่ที่ดินดังกล่าวจำเลยที่ 1 กับที่ 2 เป็นความกันและได้ยอมความกัน จำเลยที่ 2 ยอมให้เพิกถอนชื่อ อ. ให้กลับเป็นของจำเลยที่ 1 ตามเดิม โจทก์รู้ไม่คัดค้าน ที่ดินดังกล่าวไม่เป็นของ อ.อีกต่อไป จำเลยซึ่งเป็นทายาทไม่ต้องรับผิดพิพากษายกฟ้อง

ศาลอุทธรณ์ฟังว่า อ.กู้เงินโจทก์จริงและเห็นว่าสิทธิเรียกร้องของโจทก์เกิดขึ้นเมื่อลูกหนี้วายชนม์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1754 โจทก์ฟ้องคดีนี้ได้ อ. ตายที่ดินของ อ.ตกเป็นมรดกตกทอดแก่จำเลย ส่วนจำเลยที่ 1-2 จะเป็นความกันอย่างไร ไม่เป็นข้อวินิจฉัยในชั้นนี้ เป็นเรื่องชั้นบังคับคดี พิพากษากลับให้จำเลยใช้ต้นเงินและดอกเบี้ย

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยศาลล่างว่า อ.ได้กู้เงินโจทก์จริง และเจ้าหนี้ของผู้ตายจะต้องเรียกร้องให้ชำระหนี้จากทรัพย์มรดกของลูกหนี้ในกำหนด 1 ปี นับแต่ลูกหนี้ตาย ตามบทกฎหมายดังกล่าวโจทก์จึงฟ้องจำเลยซึ่งเป็นทายาทให้เอาทรัพย์มรดกของ อ.ชำระหนี้โจทก์ได้ ส่วนที่ว่าจำเลยที่ 1 และที่ 2 จะเอาที่ดินของ อ.ไปพิพาทและยอมความกันอย่างไร เป็นเรื่องนอกประเด็นคดีนี้

พิพากษายืน

Share