คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9653/2539

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ส่งกระดาษให้แก่จำเลยมีน้ำหนักไม่ถูกต้องตามขนาดที่ตกลงกันไว้เป็นการส่งมอบทรัพย์สินที่ขายผิดจากชนิดที่ตกลงกันตามสัญญาถือได้ว่าโจทก์ไม่ชำระหนี้ตามความประสงค์อันแท้จริงแห่งมูลหนี้เป็นการไม่ปฏิบัติการชำระหนี้ตามสัญญาไม่ใช่เรื่องเกิดความชำรุดบกพร่องในทรัพย์สินที่ขายเพราะการชำระหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา472ต้องบังคับตามบทบัญญัติว่าด้วยการไม่ชำระหนี้โดยทั่วไป ฎีกาโจทก์ที่ว่าศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัยในประเด็นสิทธิเรียกร้องของจำเลยตามฟ้องแย้งซึ่งเป็นเรื่องความชำรุดบกพร่องขาดอายุความแล้วหรือไม่ไม่ชอบด้วยกฎหมายเมื่อศาลฎีกาได้วินิจฉัยแล้วว่ากรณีพิพาทในคดีนี้เป็นการไม่ปฏิบัติการชำระหนี้ตามสัญญาไม่ใช่เรื่องเกิดความชำรุดบกพร่องในทรัพย์สินที่ขายเพราะการชำระหนี้ข้อฎีกาของโจทก์ดังกล่าวจึงไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นลูกค้าโจทก์และติดต่อสั่งซื้อกระดาษจากโจทก์เพื่อใช้ในกิจการจำเลยไม่ยอมชำระค่าสินค้าขอให้บังคับจำเลยชำระหนี้ค่าสินค้ารวมดอกเบี้ยเป็นเงิน 206,800 บาทพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงิน 188,100 บาท
จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่า จำเลยสั่งซื้อสินค้าตามที่ค้างชำระตามเอกสารท้ายฟ้องจริง แต่โจทก์ส่งสินค้าดังกล่าวไม่ได้มาตรฐานน้ำหนักตามที่ตกลงโจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญา จำเลยไม่ผิดสัญญาจึงไม่ต้องรับผิดชำระค่าสินค้าแก่โจทก์ จำเลยได้เสียค่าใช้จ่ายในการจัดพิมพ์ตรายี่ห้อและปั๊มเป็นกล่องกระดาษดังกล่าวเป็นเงิน 65,835 บาท ถ้าส่งสินค้าถูกต้องจำเลยจะได้กำไรเป็นเงิน 18,810 บาท โจทก์ต้องรับผิดใช้ค่าเสียหายดังกล่าวแก่จำเลยพร้อมดอกเบี้ย 9,522.50 บาท ขอให้ยกฟ้องและให้บังคับโจทก์ใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 94,167.50 บาท แก่จำเลยพร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ในต้นเงิน 84,645 บาท นับแต่วันฟ้องแย้งจนกว่าจะชำระเสร็จ
โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้งว่า โจทก์ส่งสินค้ากระดาษตามขนาดที่ตกลงกันไว้ พนักงานของจำเลยตรวจและรับไว้โดยไม่ทักท้วงเรื่องน้ำหนักของสินค้า แต่จำเลยได้ตรวจสอบแล้วไม่มีการชำรุดบกพร่องจึงได้นำกระดาษดังกล่าวพิมพ์และทำเป็นกล่องจนเสร็จส่งให้แก่ลูกค้าของจำเลย สินค้าที่ซื้อย่อมโอนไปเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยนับแต่วันที่ได้ตกลงซื้อขายความเสียหายหรือวินาศอย่างใดที่เกิดขึ้นตกเป็นพับแก่จำเลย จำเลยต้องชำระราคาสินค้ากระดาษให้แก่โจทก์ตามฟ้อง จำเลยทราบถึงการชำรุดบกพร่องนับแต่วันที่ลูกค้าจำเลยปฏิเสธไม่รับกล่องกระดาษดังกล่าว นับจนถึงวันฟ้องแย้งเกิน 1 ปี ฟ้องแย้งของจำเลยขาดอายุความค่าใช้จ่ายในการจัดพิมพ์ตรายี่ห้อและปั๊มเป็นกล่องกระดาษนั้นเป็นไปเพื่อประโยชน์การค้าของจำเลยและเกิดจากการกระทำของจำเลยอันตกเป็นพับแก่จำเลยผู้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ โจทก์ไม่ต้องรับผิดค่าเสียหายดังกล่าวขอให้ยกฟ้องแย้ง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องและยกฟ้องแย้ง
โจทก์และจำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้โจทก์ใช้ค่าเสียหายจำนวน40,000 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันฟ้องแย้งจนกว่าจะชำระเสร็จแก่จำเลย นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า กระดาษที่โจทก์ส่งให้แก่จำเลยในงวดที่ 6มีน้ำหนักแผ่นละ 250 แกรม ไม่ถูกต้องตามขนาดที่ตกลงกันไว้เป็นการส่งมอบทรัพย์สินที่ขายผิดจากชนิดที่ตกลงกันตามสัญญาถือได้ว่าโจทก์ไม่ชำระหนี้ตามความประสงค์อันแท้จริงแห่งมูลหนี้เป็นการไม่ปฏิบัติการชำระหนี้ตามสัญญาไม่ใช่เรื่องเกิดความชำรุดบกพร่องในทรัพย์สินที่ขายเพราะการชำระหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 472 ต้องบังคับตามบทบัญญัติว่าด้วยการไม่ชำระหนี้โดยทั่วไป
ที่โจทก์ฎีกาว่า ศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัยในประเด็นสิทธิเรียกร้องของจำเลยตามฟ้องแย้งซึ่งเป็นเรื่องความชำรุดบกพร่องขาดอายุความแล้วหรือไม่ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เมื่อศาลฎีกาได้วินิจฉัยแล้วว่า กรณีพิพาทในคดีนี้เป็นการไม่ปฏิบัติการชำระหนี้ตามสัญญาไม่ใช่เรื่องเกิดความชำรุดบกพร่องในทรัพย์สินที่ขายเพราะการชำระหนี้ข้อฎีกาของโจทก์ดังกล่าวจึงไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
พิพากษายืน สำหรับ ฎีกา ตาม ฟ้องแย้ง ให้ยก

Share