คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 963/2492

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ทรัพย์ที่ศาลสั่งยึดปรากฎว่าเป็นทรัพย์มฤดกของภรรยาจำเลย ซึ่งได้รับมฤดกมาจากบิดามารดา ร่วมกับทายาทคนอื่น ๆ แต่ทายาทได้มอบให้จำเลยกับภริยาครอบครองแทนทำได้ผลประโยชน์ก็แบ่งปันกัน ดังนี้ หาเป็นทรัพย์ของจำเลยไม่ ศาลต้องถอนการยึด

ย่อยาว

คดีนี้ จำเลยทำสัญญาปราณีประนอม ยอมใช้เงินให้แก่โจทก์แล้ว จำเลยไม่ปฏิบัติตามสัญญา ศาลจึงสั่งยึดทรัพย์ ผู้ร้องที่ ๑-๗ ร้องขัดทรัพย์ว่า ที่ดิน บ้านเรือน และที่นาเป็นทรัพย์มฤดกของนายอภิไชย และนางเที่ยวตกมายังผู้ร้อง ซึ่งเป็นทายาทยังไม่ได้แบ่งกัน นางด้วงผู้ร้องที่ ๖ เป็นภริยาจำเลยที่ ๒ และเป็นมารดาจำเลยที่ ๑ โจทก์ยืนยันว่าเป็นทรัพย์ของจำเลย ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วเห็นว่าหาใช่ทรัพย์ของจำเลยทั้ง ๒ ไม่ ให้ถอนการยึด
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา,
ศาลฎีกาฟังว่า ที่ดิน บ้านเรือน และนารายพิพาทเป็นมฤดกได้แก่ผู้ร้อง ซึ่งเป็นทายาทจริง การที่ทรัพย์รายนี้ตกอยู่ในความครอบครองของจำเลย ก็เนื่องจากทายาทมอบให้นายอินตาจำเลยกับนางด้วงผู้ร้อง ครอบครองแทนทายาท ทำให้ผลก็แบ่งปันกัน จึงหาใช่ทรัพย์ของจำเลยไม่
พิพากษายืน.

Share