แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เช่าห้องชั้นล่างของตึก 7 ชั้นตรงมุมถนนทรงวาดกับถนนพาดสายตัดกัน ทำเป็นร้านขายกาแฟและสุรา แม้จะอยู่อาศัยด้วย ก็ถือว่าเช่าเพื่อประกอบการค้า ไม่ได้รับความคุ้มครองจาก พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ
ผู้เช่าบอกกล่าวเลิกสัญญาเช่ากับผู้เช่าช่วง แม้ขณะนั้นสัญญาเช่าระหว่างผู้เช่ากับผู้ให้เช่าเดิมจะหมดอายุแล้ว ผู้เช่าก็มีสิทธิบอกเลิกสัญญาเช่ากับผู้เช่าช่วงซึ่งเป็นคู่สัญญาฐานเป็นผู้เช่าจากตนได้ ผู้เช่าช่วงไม่มีสิทธิได้เถียงอย่างใด
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยออกจากห้องเช่าโดยอ้างว่าหมาดอายุสัญญาเช่า และได้บอกกล่าวให้ออกจากสถานที่เช่าแล้ว
จำเลยต่อสู้ว่า เช่าเพื่ออยู่อาศัย ฯลฯ
ศาลชั้นต้นพิพากษาขับไล่จำเลย
จำเลยอุทธรณ์,
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา,
ศาลฎีกาเห็นว่า ห้องพิพาทนี้อยู่ชั้นล่างของตึก ๗ ชั้นตรงมุมถนนทรงวาดกับถนนพาดสายตัดกันเป็นห้อง ๒ คูหา เปิดทะลุถึงกัน ทำเป็นร้านขายกาแฟและสุรา ตอนหน้าตั้งโต๊ะและสินค้า ตอนในทำเป็นที่ชงกาแฟ เพดานห้องสูงประมาณ ๖ เมตร ตอนในของห้องต่อเป็นชั้นอีกชั้นหนึ่งต่ำจากเพดานลงมาประมาณ ๒ เมตร ใช้เป็นที่อยู่อาศัยของจำเลย ในห้องที่ชงกาแฟได้ทำเป็นครัวด้วย ถนนหน้าห้องมียวดยานและผู้คนสุญจรไปมาขวักไขว่ ขณะที่ศาลไปตรวจสถานที่นั้น มีผู้มากินน้ำชากาแฟในร้านของจำเลยประมาณ ๑๐ คน
ได้ความดังนี้ ศาลฎีกาเห็นว่าจำเลยเช่าเพื่อประกอบการค้า แม้ครั้งแรกที่จำเลยเข้าอยู่จะยังมิได้ประกอบการค้า ต่อมาอีก ๓-๔ เดือนจึงทำการค้าขึ้น ก็เป็นเรื่องอยู่ในระหว่างตระเตรียมเพื่อประกอบการค้านั่นเอง จึงไม่ได้รับความคุ้มครองจาก พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ
ส่วนการบอกกล่าวของโจทก์เลิกการเช่า แม้สัญญาเช่าระหว่างโจทก์กับพระคลังข้างที่หมดอายุแล้ว โจทก์ย่อมมีสิทธิบอกเลิกสัญญากับจำเลย ซึ่งเป็นคู่สัญญาฐานเป็นผู้เช่าจากโจทก์ได้ จำเลยไม่มีสิทธิโต้เถียงอย่างใด
จึงพิพากษากลับศาลอุทธรณ์ให้บังคับคดีตามศาลชั้นต้น