แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า ผู้ร้องฎีกา มีทางชนะคดี โปรดมีคำสั่งให้งดการบังคับคดีไว้ก่อน
หมายเหตุ โจทก์แถลงคัดค้าน (อันดับ 198)
กรณีเป็นชั้นบังคับคดี
สืบเนื่องจากโจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินโฉนดเลขที่ 1568ตำบลบางซื่อ อำเภอดุสิต กรุงเทพมหานคร พร้อมสิ่งปลูกสร้าง 6 รายการตามบัญชียึดทรัพย์ในที่ดินดังกล่าว เลขที่232ซึ่งจำเลยจำนองไว้กับโจทก์เพื่อขายทอดตลาดนำเงินชำระหนี้ตามคำพิพากษาตามยอมแก่โจทก์เจ้าพนักงานบังคับคดีประกาศกำหนดวันขายทอดตลาดแล้ว แต่ก่อนถึงวันขายทอดตลาด ผู้ร้องยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นว่า บ้านครึ่งตึกครึ่งไม้ เลขที่ 232 ทรัพย์ตามประกาศขายทอดตลาดอันดับที่ 6 และที่ดินที่ปลูกบ้านดังกล่าวจำนวน 319 ตารางวาเป็นของผู้ร้อง ส่วนที่ดินอีก 3 ไร่ ที่เหลือเป็นของผู้มีชื่ออีก 2 คนและจำเลยคนละ 1 ไร่ผู้ร้องกับผู้มีชื่อ 2 คนดังกล่าว ให้จำเลยมีชื่อในโฉนดที่ดิน โดยจะโอนแบ่งแยกกันภายหลัง การที่จำเลยนำที่ดินดังกล่าวไปจำนองไว้กับโจทก์โดยปกปิดมิให้ผู้ร้องกับพวกรู้ และให้ความยินยอมก่อนไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่มีผลผูกพันส่วนของผู้ร้องกับพวก ขอให้มีคำสั่งให้งดการขายทอดตลาดทรัพย์ไว้ก่อน และให้ปล่อยทรัพย์เฉพาะส่วนของผู้ร้องที่ยึดไว้ตามแผนที่ท้ายคำร้อง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้องของผู้ร้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ศาลฎีกาพิพากษายืน ต่อมาเจ้าพนักงานบังคับคดีประกาศกำหนดวันขายทอดตลาดใหม่ก่อนถึงวันขายทอดตลาด ผู้ร้องยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นว่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในที่ดินดังกล่าวเป็นสินสมรสระหว่างผู้ร้องกับจำเลย จึงเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์คนละส่วนเท่าๆกันผู้ร้องมิได้รู้เห็นและยินยอมให้จำเลยนำไปจำนองไว้กับโจทก์การจำนองไม่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นโมฆะ ไม่มีผลผูกพันทรัพย์ส่วนของผู้ร้อง ขอให้มีคำสั่งให้งดการขายทอดตลาดทรัพย์ไว้ก่อน และมีคำสั่งให้กันส่วนสินสมรสหรือแบ่งสินสมรสเป็นส่วนของผู้ร้องครึ่งหนึ่งก่อนทำการขายทอดตลาด
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้องของผู้ร้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 196,195)
ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้งดการขายหรือจำหน่ายทรัพย์พิพาทระหว่างอุทธรณ์ (อันดับ 182)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว เห็นสมควรให้งดการขายหรือจำหน่ายทรัพย์พิพาทในระหว่างฎีกา