คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 959/2537

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เจ้าพนักงานบังคับคดีมีหนังสืออายัดถึงผู้ร้องให้ส่งเงินที่จำเลยมีสิทธิได้รับจากผู้ร้อง ผู้ร้องยื่นคำคัดค้านว่าหนังสืออายัดดังกล่าวมิใช่คำสั่งศาล การอายัดต้องกระทำโดยคำสั่งศาลเท่านั้นและการอายัดจะกระทำได้ก็ต่อเมื่อได้มีการยึดทรัพย์สินของจำเลยแล้วคดีจึงมีประเด็นต้องวินิจฉัยว่า เจ้าพนักงานบังคับคดีมีอำนาจออกหนังสืออายัดไปยังผู้ร้องหรือไม่ และการอายัดจะต้องมีการยึดทรัพย์สินของจำเลยก่อนหรือไม่ ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 2 วินิจฉัยว่าหนังสืออายัดไม่มีข้อห้ามผู้ร้องไม่ให้ชำระเงินแก่จำเลย ทั้งไม่ได้กำหนดเวลาให้ผู้ร้องส่งมอบเงินที่อายัดแก่เจ้าพนักงานบังคับคดีจึงไม่ใช่คำสั่งอายัดตามกฎหมายที่ผู้ร้องจะต้องปฏิบัติตาม อันเป็นประเด็นที่ผู้ร้องมิได้โต้แย้งคัดค้าน จึงเป็นการวินิจฉัยนอกประเด็น ศาลชั้นต้นออกหมายบังคับคดีตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีให้จัดการยึดอายัดทรัพย์สินของจำเลย ดังนั้น การที่เจ้าพนักงานบังคับคดีมีหนังสืออายัดเงินที่จำเลยมีสิทธิจะได้รับจากผู้ร้อง จึงเป็นการดำเนินการตามคำสั่งยึดอายัดของศาลชั้นต้น เจ้าพนักงานบังคับคดีจึงมีอำนาจกระทำได้ ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 282 คดีที่มีคำพิพากษาหรือคำสั่งกำหนดให้ชำระเงินจำนวนหนึ่งนั้น เจ้าพนักงานบังคับคดีย่อมมีอำนาจอายัดเงินที่บุคคลภายนอกจะต้องชำระให้แก่ลูกหนี้ตามคำพิพากษาได้โดยตรง โดยไม่จำต้องบังคับคดีตามวิธีการที่กำหนดไว้ในมาตราดังกล่าวเรียงตามลำดับ ส่วนมาตรา 310ที่บัญญัติว่า “เมื่อได้มีการยึดทรัพย์แล้ว สิทธิเรียกร้องของลูกหนี้อันมีต่อบุคคลภายนอกนั้น ให้จัดการดังต่อไปนี้ ฯลฯ” นั้นเป็นการบัญญัติวิธีการยึดทรัพย์ก่อนวิธีการอายัดทรัพย์ อันเป็นบทมาตราที่เรียงต่อกันมาเท่านั้น มิได้หมายความจำกัดว่า จะต้องทำการยึดทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาก่อนแล้วจึงจะอายัดสิทธิเรียกร้องได้ การที่ผู้ร้องไม่ปฏิบัติตามคำสั่งอายัดของเจ้าพนักงานบังคับคดีและจ่ายเงินตามที่จำเลยมีสิทธิจะได้รับจากผู้ร้องให้จำเลยรับไปทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย จะถือว่าผู้ร้องชำระหนี้ให้จำเลยโดยสุจริตมิได้ ผู้ร้องต้องรับผิดส่งเงินตามหนังสืออายัดของเจ้าพนักงานบังคับคดี

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องจากโจทก์ฟ้องบังคับให้จำเลยชำระหนี้ตามเช็คศาลชั้นต้นให้จำเลยชำระเงิน 105,625 บาท พร้อมดอกเบี้ยจำเลยไม่ชำระหนี้แก่โจทก์ ศาลชั้นต้นออกหมายบังคับคดีตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดียึดอายัดทรัพย์สินของจำเลย เจ้าพนักงานบังคับคดีมีหนังสือตามเอกสารหมาย ปร.1 ถึงผู้ร้องแจ้งอายัดเงินส่วนที่ผู้ร้องจะต้องชำระแก่จำเลย แต่ผู้ร้องไม่ปฏิบัติตามเอกสารหมาย ปร.1 กลับจ่ายเงินค่าประกันชีวิตของพันตำรวจตรีสุวิน สร้อยสด สามีจำเลยแก่จำเลยในฐานะผู้รับประโยชน์เป็นเงิน 500,000 บาท เจ้าพนักงานบังคับคดีขอให้ศาลทำการไต่สวนและมีคำสั่งอย่างใดอย่างหนึ่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 312
ผู้ร้องยื่นคำคัดค้านว่า ผู้ร้องไม่เคยได้รับคำสั่งอายัดของศาลชั้นต้นคงได้รับแต่หนังสือของเจ้าพนักงานบังคับคดี ซึ่งไม่ใช่หมายอายัดของศาล การอายัดของเจ้าพนักงานบังคับคดีจะกระทำได้เมื่อมีการยึดทรัพย์แล้ว ผู้ร้องจ่ายเงินค่าประกันชีวิตในมรณกรรมของสามีจำเลยให้แก่จำเลยโดยสุจริต
ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งว่า ผู้ร้องจ่ายเงินค่าประกันชีวิตของพันตำรวจตรีสุวิน สร้อยสด แก่จำเลยซึ่งเป็นผู้รับประโยชน์ตามกรมธรรม์โดยสุจริต ผู้ร้องไม่ต้องส่งเงินตามหนังสืออายัดของเจ้าพนักงานบังคับคดี
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาโจทก์ข้อแรกว่าหนังสืออายัดหมาย ปร.1 ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ในข้อนี้เจ้าพนักงานบังคับคดีได้มีหนังสืออายัดหมาย ปร.1 ถึงผู้ร้อง ให้ส่งเงินที่จำเลยมีสิทธิจะได้รับจากผู้ร้อง ผู้ร้องยื่นคำคัดค้านว่าหนังสืออายัดดังกล่าวมิใช่คำสั่งศาล การอายัดต้องกระทำโดยคำสั่งศาลเท่านั้น และการอายัดจะกระทำได้ก็ต่อเมื่อได้มีการยึดทรัพย์สินของจำเลยแล้ว ตามปัญหานี้จึงมีประเด็นต้องวินิจฉัยว่า เจ้าพนักงานบังคับคดีมีอำนาจออกหนังสืออายัดไปยังผู้ร้องหรือไม่ และการอายัดจะต้องมีการยึดทรัพย์สินของจำเลยก่อนหรือไม่ ประเด็นดังกล่าวศาลอุทธรณ์ภาค 2 ยังมิได้วินิจฉัย แต่ศาลอุทธรณ์ภาค 2 ได้ไปวินิจฉัยว่าหนังสืออายัดหมาย ปร.1 ไม่มีข้อห้ามผู้ร้องไม่ให้ชำระเงินแก่จำเลย ทั้งไม่ได้กำหนดเวลาให้ผู้ร้องส่งมอบเงินที่อายัดแก่เจ้าพนักงานบังคับคดี จึงไม่ใช่คำสั่งอายัดตามกฎหมายที่ผู้ร้องจะต้องปฏิบัติตาม อันเป็นประเด็นที่ผู้ร้องมิได้โต้แย้งคัดค้านในข้อนี้จึงไม่มีประเด็นที่ศาลอุทธรณ์ภาค 2 จะยกขึ้นวินิจฉัยคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ภาค 2 ดังกล่าวเป็นการวินิจฉัยนอกประเด็นอย่างไรก็ตามศาลฎีกาเห็นควรวินิจฉัยปัญหาตามฎีกาโจทก์ไปโดยไม่ต้องย้อนสำนวนให้ศาลอุทธรณ์ภาค 2 วินิจฉัยใหม่ ในปัญหาว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีมีอำนาจออกหนังสืออายัดเงินค่าประกันชีวิตที่จำเลยมีสิทธิได้รับจากผู้ร้องหรือไม่ เห็นว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีและได้มีการออกหมายบังคับคดีโดยให้เจ้าพนักงานบังคับคดีจัดการยึดอายัดทรัพย์สินของจำเลยดังนั้น การที่เจ้าพนักงานบังคับคดีมีหนังสืออายัดเงินที่จำเลยมีสิทธิจะได้รับจากผู้ร้อง จึงเป็นการดำเนินการตามคำสั่งยึดอายัดของศาลชั้นต้น เจ้าพนักงานบังคับคดีจึงมีอำนาจกระทำได้
ส่วนปัญหาว่า เจ้าพนักงานบังคับคดีจะมีหนังสืออายัดถึงผู้ร้องได้ต้องมีการยึดทรัพย์สินของจำเลยก่อนหรือไม่ เห็นว่าตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 282 คดีที่มีคำพิพากษาหรือคำสั่งกำหนดให้ชำระเงินจำนวนหนึ่งนั้นเจ้าพนักงานบังคับคดีย่อมมีอำนาจอายัดเงินที่บุคคลภายนอกจะต้องชำระให้แก่ลูกหนี้ตามคำพิพากษาได้โดยตรง โดยไม่จำต้องบังคับคดีตามวิธีการที่กำหนดไว้ในมาตราดังกล่าวเรียงตามลำดับ ส่วนมาตรา 310 ที่บัญญัติว่า “เมื่อได้มีการยึดทรัพย์แล้วสิทธิเรียกร้องของลูกหนี้อันมีต่อบุคคลภายนอกนั้น ให้จัดการดังต่อไปนี้ ฯลฯ” นั้นเป็นการบัญญัติวิธีการยึดทรัพย์ก่อนวิธีการอายัดทรัพย์ อันเป็นบทมาตราที่เรียงต่อกันมาเท่านั้น มิได้มีความหมายจำกัดว่า จะต้องทำการยึดทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาก่อนแล้วจึงจะอายัดสิทธิเรียกร้องได้ดังที่ผู้ร้องต่อสู้
ปัญหาข้อสุดท้ายมีว่า ผู้ร้องจะต้องรับผิดส่งเงินตามหนังสืออายัดของเจ้าพนักงานบังคับคดีหรือไม่ ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า ขณะได้รับหนังสืออายัดผู้ร้องทราบดีว่าจำเลยมีสิทธิจะได้รับเงินจากผู้ร้อง แล้ววินิจฉัยข้อกฎหมายว่า การที่ผู้ร้องไม่ปฏิบัติตามคำสั่งอายัดของเจ้าพนักงานบังคับคดีและจ่ายเงินตามที่จำเลยมีสิทธิจะได้รับจากผู้ร้องให้จำเลยไป ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายนั้นจะถือว่าผู้ร้องชำระหนี้ให้จำเลยโดยสุจริตมิได้ ผู้ร้องจึงต้องรับผิดส่งเงินตามหนังสืออายัดของเจ้าพนักงานบังคับคดี
พิพากษากลับ ให้ผู้ร้องชำระเงิน 114,227.73 บาท แก่เจ้าพนักงานบังคับคดี

Share