แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คดีก่อนสามีผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการบังคับคดีโดยอ้างเหตุอย่างเดียวกับผู้ร้องแต่ไม่มีพยานมาไต่สวน ข้อเท็จจริงจึงฟังได้ว่าสามีผู้ร้องอยู่อาศัยในที่ดินและบ้านพิพาทในฐานะบริวารของจำเลยไม่ได้มีอำนาจพิเศษที่จะครอบครองที่ดินและบ้านพิพาทโดยอาศัยสิทธิความเป็นเจ้าของได้ การยื่นคำร้องของสามีผู้ร้องถือเป็นการจัดการทรัพย์สินบ้านพิพาทซึ่งถือว่าเป็นสินสมรสหรือกรรมสิทธิ์รวมระหว่างสามี ผู้ร้องกับผู้ร้องในนามของผู้ร้องด้วย ข้อเท็จจริงที่พิจารณาได้ความดังกล่าวจึงมีผลผูกพันผู้ร้อง ทั้งตามคำร้องผู้ร้องก็มิได้อ้างอำนาจพิเศษนอกเหนือจากที่สามีผู้ร้องอ้าง กรณีจึงต้องถือว่าผู้ร้องเป็นบริวารของจำเลยและไม่มีสิทธิมายื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการบังคับคดีได้อีก
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาว่า ที่ดิน น.ส.3 ก.เลขที่ 2561 ตำบลสระโบสถ์ อำเภอโคกสำโรง จังหวัดลพบุรี พร้อมสิ่งปลูกสร้างคือบ้านเลขที่ 86 และ 86/1 เป็นของโจทก์ ให้จำเลยและบริวารออกไปจากที่ดินและบ้านดังกล่าว จำเลยไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษา โจทก์ขอให้บังคับคดี เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ปิดประกาศขับไล่จำเลยและบริวารออกไปจากที่ดินและบ้านพิพาท
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการบังคับคดีดังกล่าว
โจทก์ยื่นคำคัดค้านขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นนัดไต่สวนคำร้อง เห็นว่าคดีพอวินิจฉัยได้แล้วให้งดไต่สวนและมีคำสั่งให้ยกคำร้อง ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
ผู้ร้องฎีกา โดยผู้พิพากษาที่ได้นั่งพิจารณาคดีในศาลชั้นต้นรับรองว่ามีเหตุสมควรที่จะฎีกาในข้อเท็จจริงได้
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของผู้ร้องก่อนว่า ผู้ร้องมีอำนาจยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนการบังคับคดีได้หรือไม่ เห็นว่า ก่อนหน้านี้นายเหียน ซึ่งเป็นสามีผู้ร้องได้ยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการบังคับคดี โดยอ้างเหตุอย่างเดียวกันกับผู้ร้อง แต่เมื่อถึงวันนัดไต่สวนคำร้องนายเหียนไม่มีพยานไปไต่สวนให้ฟังได้ตามคำร้อง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้อง นายเหียนมิได้อุทธรณ์คดีถึงที่สุดแล้ว ข้อเท็จจริงจึงต้องฟังว่าที่ดินและบ้านพิพาทที่โจทก์นำยึดบังคับคดีเป็นของโจทก์นายเหียนอยู่อาศัยในที่ดินและบ้านพิพาทในฐานะบริวารของจำเลยไม่ได้มีอำนาจพิเศษที่จะครอบครองที่ดินและบ้านพิพาทโดยอาศัยสิทธิความเป็นเจ้าของได้ นายเหียนเป็นสามีผู้ร้อง การยื่นคำร้องของนายเหียนถือเป็นการจัดการทรัพย์สินบ้านพิพาทซึ่งถือว่าเป็นสินสมรสหรือกรรมสิทธิ์รวมระหว่างนายเหียนกับผู้ร้องในนามของผู้ร้องด้วย ข้อเท็จจริงที่พิจารณาได้ความดังกล่าวจึงมีผลผูกพันผู้ร้อง ทั้งตามคำร้องผู้ร้องก็มิได้อ้างอำนาจพิเศษนอกเหนือจากที่นายเหียนอ้าง กรณีจึงต้องถือว่าผู้ร้องเป็นบริวารของจำเลยและไม่มีสิทธิมายื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการบังคับคดีต่อจากนายเหียนได้อีก ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายกคำร้องของผู้ร้องมานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยฎีกาของผู้ร้องฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ.