คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 956/2498

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่จำเลยที่ 3 พาพวกมีอาวุธกลับมาและขึ้นไปบนเรือนพร้อมกับจำเลยที่ 1 ๆ ถือปืนยาวแล้วหยิบปืนลูกซองอีกกระบอกให้จำเลยที่ 3 ๆ บรรจุกระสุนเล็งมาทางเจ้าพนักงานสรรพสามิต ๆ หลบเข้าใต้ถุนและไปห่างราว 10 วาก็มีเสียงปืนลั่นมาจากทางบ้าน จำเลยที่ 1 ติด ๆ กัน 2 นัด เมื่อลั่นนัดแรกเจ้าพนักงานผู้นั้นหันไปเห็นจำเลยที่ 1 ประทับปืนอยู่ พฤติการณ์ดังนี้ย่อมถือว่า่จำเลยที่ 3 เป็นพรรคพวกของจำเลยที่ 1 และร่วมสบคบให้อาวุธปืนยิงเจ้าพนักงาน ๆ ด้วย
นายตรวจสรรพสามิตทำการตรวจค้นบ้านจำเลยในข้อหาว่ามีสุราผิด ก.ม. ตามหมายค้นของผู้ว่าราชการจังหวัด ถือได้ว่าเป็นเจ้าพนักงานกระทำการตามหน้าที่เมื่อจำเลยใช้อาวุธปืนยิงโดยเจตนาจะฆ่าหากแต่กระสุนไม่ถูกที่หมาย ดังนี้จำเลยย่อมมีผิดฐานพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน เพราะการที่กระทำการตามหน้าที่ตาม ม.250(2),60
ความผิดฐานฆ่าคนโดยเจตนาตาม ม. 250 (2) เป็นอุกฤษโทษ ก.ม.บัญญัติให้ประหารชีวิตแต่สถานเดียว เมื่อจะลงโทษจำเลยเพียง 2 ใน 3 ส่วน ตาม ม.60 ต้องถือเกณฑ์ส่วนลดตาม ม. 37(1)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่านายมาศ ผู้ช่วยสรรพสามิต นายเที้ยน และนายสุทัศน์ นายตรวจสรรพสามิต เข้าตรวจค้นบ้านจำเลยที่ ๑ ฐานมีสุราผิด ก.ม. ไว้ในครอบครอง จำเลยที่ ๒ ขัดขวางไม่ยอมให้นายมาศกับพวกตรวจค้น จำเลยที่ ๑,๓ กับพวกสมคบกันใช้วาจาขู่เข็ญใช้ปืนยิงนายเที้ยนผู้กระทำการตามหน้าที่ โดยเจตนาจะฆ่าหากกระสุนปืนไม่ถูกนายเที้ยน ขอให้ลงโทษ จำเลยทั้งสามสารภาพตามฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยที่ ๒ มีผิดตาม ก.ม.อาญา ม. ๑๑๙,๕๙ ปรับ ๕๐ บาท จำเลยที่ ๑,๓ มีผิดตาม ม.๑๑๙,๑๒๐,๒๕๐,๖๐,๖๓,๓๗(๑),๕๙ จำคุกคนละ ๘ ปี ริบปืน
จำเลยที่ ๑,๓ อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ ๑,๓ ฎีกาว่ายังถือไม่ได้ว่านายเที้ยนเป็นเจ้าพนักงานตาม ก.ม.ยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ ๓ สมคบกับจำเลยที่ ๑ กระทำผิด และถ้ามีผิดก็วางโทษหนักไปควรลดโทษตาม ม.๓๘
ศาลฎีกาเห็นว่าคดีได้ความปรากฎว่านายเที้ยน อักษรรับราชการเป็นนายตรวจสรรพสามิตได้ไปทำการตรวจค้นบ้านเรือน จำเลยในข้อหาว่ามีสุราผิด ก.ม. ตามหมายค้นของผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งได้ออกโดยถูกต้องชอบด้วย ก.ม.ฉนั้นจึงฟังได้ว่านายเที้ยน อักษร เป็นเจ้าพนักงานไปทำการตรวจค้นบ้านเรือนของจำเลยตามหน้าที่ และพฤติการณ์ของนายแดงจำเลย ดังได้ความตามที่กล่าวมาข้างต้นแสดงให้เชื่อฟังได้ว่านายแดงจำเลยเป็นพรรคพวกของนายเสาร์ จำเลยและได้ร่วมลงมือใช้อาวุธปืนยิงนายเที้ยน โดยนายแดงจำเลยรู้อยู่ว่านายเที้ยนเป็นเจ้าพนักงานไปทำการตรวจค้นสุราที่บ้านเรือนนายเสาร์ตามอำนาจหน้าที่โดยชอบธรรมด้วย ก.ม. และความผิดของนายเสาร์นายแดงจำเลยในข้อที่ใช้อาวุธปืนยิงนายเที้ยนเป็นฐานพยายามฆ่าเจ้าพนักงานเพราะเหตุที่กระทำการตามหน้าที่ตาม ก.ม.อาญา ม.๒๕๐ (๒) ประกอบด้วย ม.๖๐ ซึ่งความผิดตาม ม. ๒๕๐ (๒) เป็นอุกฤษฎ์โทษต้องให้ประหารชีวิตสถานเดียว ฉนั้นเมื่อจะลงโทษจำเลยเพียง ๒ ใน ๓ ส่วนตาม ม.๖๐ ก็ต้องถือตามเกณฑ์กำหนดส่วนลดโทษใน ม.๓๗ ส่วน ม.๓๘ เป็นเกณฑ์กำหนดส่วนลดโทษลงจากโทษจำคุกตลอดชีวิต
พิพากษายืน

Share