แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คนต่างด้าวนำเรือและอวนเข้ามาทำการประมงในเขตน่านน้ำไทยอันเป็นผิดตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยสิทธิการประมงในเขตการประมงไทยพ.ศ.2482 มาตรา 4,7,8,10,11 นั้น เมื่อปรากฏว่าเรือยนต์และอวนของกลางนั้นเป็นของผู้อื่นมิได้รู้เห็นในการกระทำผิดนี้ด้วยจะริบไม่ได้ ศาลพิพากษาให้คืนเรือยนต์และอวนนั้นให้เจ้าของไป
ย่อยาว
คดีสองสำนวนนี้ โจทก์ฟ้องมีความต้องกันว่าจำเลยเป็นบุคคลต่างด้าว สมคบกันลักลอบทำการประมงในเขตน่านน้ำไทยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายขอให้ลงโทษ
จำเลยปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า นายอิบราฮิมจำเลย นายอาลี บินยาบจำเลยผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยสิทธิการประมงในเขตการประมงไทย พ.ศ. 2482 มาตรา 4, 7, 8, 10, 11 ให้จำคุกคนละ 6 เดือน ปรับคนละ 1,000 บาท จำเลยอื่นผิดตาม มาตรา 4, 7, 8, 10, 12 ให้ปรับคนละ 100 บาท ของกลางปรากฏว่าได้ใช้ในการกระทำผิดให้ริบเสียทั้งสิ้น
จำเลยทุกคนฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงตามศาลอุทธรณ์ แต่เห็นว่า นายอิบราฮิมและนายอาลีบินยาบ เป็นเพียงลูกจ้าง ลงโทษเพียงปรับสถานเดียวก็เพียงพอแก่ความผิดแล้ว สำหรับเรือยนต์และอวนของกลางนั้น เป็นของผู้อื่นมิได้รู้เห็นในการกระทำผิดนี้ด้วย จะริบไม่ได้ ส่วนเรือเล็กของกลางเป็นของจำเลย ควรริบ
จึงพิพากษาแก้ว่า สำหรับนายอิบราฮิม นายอาลี ให้ปรับคนละ 1,000 บาท และให้คืนเรือยนต์ และอวนของกลางให้เจ้าของไปนอกนั้นคงยืน