แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
แม้ ป.พ.พ. มาตรา 698 จะบัญญัติให้ผู้ค้ำประกันหลุดพ้นจากความรับผิดในขณะเมื่อหนี้ของลูกหนี้ระงับสิ้นไปไม่ว่าเพราะเหตุใดก็ตาม แต่ก็ไม่ถือว่าเป็นบทบังคับเด็ดขาด ดังนั้นในกรณีที่ผู้ค้ำประกันยอมผูกพันตนให้รับผิดในหนี้ที่ขาดอายุความเรียกร้องจากลูกหนี้แล้วจึงอาจกระทำได้ ไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน และมิใช่เป็นการงดใช้หรือขยายอายุความตามมาตรา 193/11
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยที่ ๑ ซึ่งเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายในฐานะทายาทโดยธรรมของ นายดาบตำรวจเริงศักดิ์ หัตถสาร ซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันต้องร่วมกันรับผิดชำระเงินจำนวน ๑๓,๙๖๘.๔๕ บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๑๔.๕ ต่อปี ของต้นเงินจำนวน ๗,๕๙๐.๔๒ บาท นับถักจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยทั้งสองให้การขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยที่ ๒ ชำระเงินจำนวน ๑๓,๙๖๘.๔๕ บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๑๔.๕ ต่อปี ของต้นเงินจำนวน ๗,๕๙๐.๔๒ บาท นับแต่วันถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ กับให้จำเลยที่ ๒ ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ ๕๐๐ บาท ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ ๑ ค่าฤชาธรรมเนียมระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ ๑ ให้เป็นพับ
จำเลยที่ ๒ อุทธรณ์เฉพาะปัญหาข้อกฎหมายโดยตรงต่อศาลฎีกา โดยได้รับอนุญาตจากศาลชั้นต้น ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๒๓ ทวิ
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาข้อกฎหมายที่ต้องวินิจฉัยตามที่จำเลยที่ ๒ อุทธรณ์เพียงประเด็นเดียวว่า สัญญาค้ำประกันที่มีข้อความว่า ถ้าผู้กู้ตายเกินกว่า ๑ ปี ผู้ค้ำประกันก็ยอมชำระหนี้แทนจนครบถ้วนนั้นมีผลใช้บังคับหรือไม่ เห็นว่า แม้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๖๙๘ จะบัญญัติให้ผู้ค้ำประกันหลุดพ้นจากความรับผิดในขณะเมื่อหนี้ของลูกหนี้ระงับสิ้นไปไม่ว่าเพราะเหตุใด ๆ ก็ตาม แต่เมื่อพิจารณาความในมาตรา ๖๘๑ ประกอบด้วยแล้วจะเห็นได้ว่าแม้หนี้ซึ่งลูกหนี้ไม่ต้องรับผิดเพราะทำด้วยความสำคัญผิดหรือเป็นผู้ไร้ความสามารถก็อาจมีการค้ำประกันอย่างสมบูรณ์ได้หากผู้ค้ำประกันรู้ถึงเหตุสำคัญผิดหรือไร้ความสามารถนั้น กรณีจึงถือไม่ได้ว่า บทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๖๙๘ เป็นบทบังคับเด็ดขาดเปลี่ยนแปลงไม่ได้เสียเลย และเห็นว่าในกรณีที่ผู้ค้ำประกันยอมผูกพันตนให้รับผิดในหนี้ที่ขาดอายุความเรียกร้องจากลูกหนี้แล้วจึงอาจกระทำได้ ไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน และมิใช่เป็นการงดใช้หรือขยายอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๙๓/๑๑ แต่อย่างใด ดังนั้น การที่จำเลยที่ ๒ ในฐานะผู้ค้ำประกันทำสัญญาค้ำประกันตกลงกับโจทก์ว่า ถ้าผู้กู้ตายเกิน ๑ ปี ผู้ค้ำประกันยอมชำระหนี้แทนจนครบถ้วน ซึ่งมีความหมายว่าเป็นกรณีที่ผู้ค้ำประกันตกลงจะไม่ยกอายุความของ ลูกหนี้ขึ้นต่อสู้ หาใช่เป็นกรณีที่ผู้ค้ำประกันตกลงจะไม่ยกอายุความของผู้ค้ำประกันเองขึ้นเป็นข้อต่อสู้ อันจะถือได้ว่าเป็นกรณีที่ผู้ค้ำประกันสละประโยชน์แห่งอายุความของผู้ค้ำประกันไว้ก่อน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๙๓/๒๔ แต่อย่างใดไม่ ข้อตกลงตามสัญญาค้ำประกันดังกล่าวจึงมีผลบังคับกันได้ตามกฎหมาย ที่ศาลชั้นต้นพิพากษามานั้นชอบแล้ว อุทธรณ์ของจำเลยที่ ๒ ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ