แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยอุทธรณ์ขอให้ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษากลับคำสั่งยกคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลย เท่ากับขอให้ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นและให้พิจารณาใหม่ต่อไป จึงต้องนำเงินค่าธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งตามคำพิพากษามาวางศาลพร้อมอุทธรณ์ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 229 เมื่อจำเลยไม่นำเงินค่าธรรมเนียมมาวางศาลพร้อมอุทธรณ์ดังกล่าว จึงเป็นอุทธรณ์ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ปัญหาข้อกฎหมายนี้เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อย แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกา ศาลฎีกาก็มีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยเองได้
ย่อยาว
คดีนี้สืบเนื่องจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าเสียหาย ๘๕๕,๐๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ย อัตราร้อยละ ๑๕ ต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ กับให้ร่วมกันใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ ๓,๐๐๐ บาท เฉพาะค่าขึ้นศาลให้ใช้ตามทุนทรัพย์ที่โจทก์ชนะคดี คำขออื่นให้ยก
จำเลยที่ ๒ ยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ อ้างเหตุไม่ทราบคำฟ้องเพราะมิได้พักอยู่ที่บ้านตามที่โจทก์ระบุไว้ ในคำฟ้องหลายปีแล้ว ศาลชั้นต้นเห็นว่าจำเลยที่ ๒ ทราบคำฟ้องแล้วจงใจขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา มีคำสั่งยกคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยที่ ๒
จำเลยที่ ๒ อุทธรณ์คำสั่ง ต่อมาวันที่ ๑๑ สิงหาคม ๒๕๔๒ เจ้าหน้าที่ศาลรายงานว่า จำเลยที่ ๒ ไม่เสียค่าธรรมเนียมในการส่งหมายจนระยะเวลาล่วงเลยมานานแล้ว ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ส่งสำนวนไปยังศาลอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้จำหน่ายคดีจากสารบบความของศาลอุทธรณ์
จำเลยที่ ๒ ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เห็นว่า จำเลยที่ ๒ อุทธรณ์ขอให้ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษากลับคำสั่งยกคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยที่ ๒ เท่ากับขอให้ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นและให้พิจารณาใหม่ต่อไป จึงต้องนำเงินค่าธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งตามคำพิพากษามาวางศาลพร้อมอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๒๙ เมื่อปรากฏว่าจำเลยที่ ๒ ไม่นำเงินค่าธรรมเนียมมาวางศาลพร้อมอุทธรณ์ ดังกล่าว จึงเป็นอุทธรณ์ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ปัญหาข้อกฎหมายดังกล่าวเป็นปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อย แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกา ศาลฎีกามีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยเองได้ ไม่จำต้องวินิจฉัยตามฎีกาประการอื่นของจำเลยที่ ๒ อีกต่อไป
พิพากษายกอุทธรณ์ของจำเลยที่ ๒ .