คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 942/2512

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญามาด้วยกัน ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องทั้งหมด คงมีการอุทธรณ์ฎีกาต่อมาเฉพาะคดีส่วนแพ่ง ในการพิพากษาคดีส่วนแพ่ง ศาลสูงจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนอาญาซึ่งถึงที่สุดไปแล้วนั้น
มารดาได้แจ้งการเกิดของบุตรต่อจำเลยซึ่งเป็นสารวัตรกำนัน ผู้ได้รับมอบหมายให้มีหน้าที่รับแจ้งการเกิด โดยระบุแจ้งชื่อโจทก์เป็นบิดาเด็กที่เกิดนั้น แต่จำเลยยังไม่แน่ใจที่จะกรอกลงไปในสูติบัตร จึงได้เว้นว่างไว้ แล้วนายอำเภอเป็นผู้สั่งให้จำเลยแก้โดยให้เติมชื่อและนามสกุลของโจทก์ลงไปในสูติบัตร โดยจำเลยมิได้มีเจตนาร้ายต่อโจทก์ หากแต่ได้แก้ไขเพิ่มเติมไปโดยหน้าที่และตรงตามที่มารดาของเด็กแจ้ง ดังนี้ จำเลยย่อมไม่มีความผิด โจทก์จะขอให้บังคับจำเลยแก้ชื่อและนามสกุลของโจทก์ออกจากสูติบัตรนั้นไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาว่า นางจูม หอมจำปี ได้แจ้งการเกิดของบุตรชายชื่อรัศมี ต่อมาจำเลยซึ่งเป็นสารวัตรกำนัน ผู้ได้รับมอบหมายให้มีหน้าที่รับแจ้งการเกิดแต่ไม่ได้แจ้งว่าใครเป็นบิดา จำเลยออกสูติบัตรให้ไปแล้ว แต่เรียกกลับมาแก้ใหม่ ขีดนามสกุลเด็กออก เดิมนามสกุลโจทก์แทน และในช่องบิดา เติมชื่อและนามสกุลโจทก์ โดยมีเจตนาร้ายต่อโจทก์ ทั้ง ๆ ที่ไม่เป็นความจริง ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๖๒, ๑๖๑ และบังคับจำเลยแก้ชื่อและนามสกุลโจทก์ออกจากสูติบัตร
จำเลยต่อสู้ว่า จำเลยได้ปฏิบัติและกระทำการตามอำนาจหน้าที่ ตามที่ได้รับมอบหมายให้กระทำโดยชอบ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องทั้งข้อหาทางอาญาและทางแพ่ง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับอุทธรณ์ เพราะไม่ยื่นภายในกำหนด แต่ศาลอุทธรณ์สั่งให้รับอุทธรณ์ในคดีส่วนแพ่งของโจทก์ไว้ เมื่อพิจารณาแล้ว พิพากษายืน
โจทก์ฎีกาต่อมา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้โจทก์ฟ้องจำเลยเป็นคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาในการพิพากษาคดีส่วนแพ่ง ศาลจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนอาญา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๔๖ ซึ่งข้อเท็จจริงในคดีส่วนอาญาคดีนี้นั้น ศาลชั้นต้นฟังเป็นยุติโดยคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วว่า เมื่อนางจูมมาแจ้งการเกิดของเด็กชายรัศมีบุตรนางจูมต่อจำเลยนั้น นางจูมได้แจ้งระบุชื่อโจทก์เป็นบิดาเด็กที่เกิดนั้นด้วย แต่จำเลยยังไม่แน่ใจที่จะกรอกลงไปในสูติบัตร จึงได้เว้นว่างไว้ แล้วนายอำเภอเป็นผู้สั่งให้จำเลยแก้ โดยให้เติมชื่อโจทก์และนามสกุลลงไปโดยจำเลยมิได้มีเจตนาร้ายต่อโจทก์ หากแต่ได้แก้ไขเพิ่มเติมไปโดยหน้าที่และตรงตามที่นางจูมมาแจ้ง จำเลยจึงไม่มีความผิด ดังนี้ โจทก์จึงขอให้บังคับจำเลยรับผิดในทางแพ่ง ให้จำเลยแก้ชื่อและนามสกุลของโจทก์ออกจากสูติบัตรนั้นไม่ได้
พิพากษายืน.

Share