แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ฟ้องว่า รั้วสังกะสีเสียหายไปประมาณ 50 แผ่นรวมทั้งทรัพย์สินอื่นอีกด้วย คิดค่าเสียหายจำนวนหนึ่ง โดยมิได้ตีราคาเฉพาะสังกะสีว่าเสียหายเท่าใดก็ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
การที่ผู้ว่าจ้างสั่งคนไปควบคุมผู้รับจ้างเหมาทำงานให้เป็นไปตามสัญญา หากเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นขึ้นผู้ว่าจ้างก็ต้องรับผิดเพื่อความเสียหายนั้น
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของที่ดินและสร้างตึกเป็นที่อยู่อาศัยในที่ดินแปลงนี้ จำเลยมีที่ดินติดต่อกับโจทก์เมื่อ ก.ย.96 จำเลยเริ่มลงมือ สร้างโรงภาพยนต์ขึ้นได้ตอกเข็มลงรากใช้เสาเข็มใหญ่และยาวมากใกล้ชิดรั้วและตัวตึกของโจทก์มากเกินไป ทำให้ที่ดินและตัวตึกของโจทก์เสียหายเกิดรอยแตกร้าวขึ้นที่คานดาดฟ้าหน้าตึกหลายแห่ง ต้องรื้อคานดาดฟ้าสร้างใหม่คิดเป็นเงิน 14,000 บาทและทำให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สินของโจทก์หลายอย่าง เช่นคานรั้วบางอันถูกตัดสังกะสีรั้วชำรุดราว 50 แผ่น เสารั้วบางต้นหักร้านต้นไม้หัก ต้นไม้ตาย กระถางต้นไม้แตกคิดค่าเสียหาย 6,000 บาทโจทก์ให้ทนายแจ้งให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายแล้ว จำเลยไม่ใช้จึงฟ้องขอให้ศาลบังคับ
จำเลยให้การว่า การก่อสร้างโรงภาพยนต์ของจำเลยไม่ทำให้ตึกหรือคานดาดฟ้าตึกของโจทก์เสียหาย โจทก์ปลูกสร้างมานานจึงมีรอยร้าวตามสภาพก่อนจำเลยลงมือก่อสร้างโรงภาพยนต์ การตอกเข็มใกล้รั้วและตัวตึกของโจทก์เป็นการตอกเข็มตามธรรมดา มิใช่เกิดจากการตอกเข็ม หากจะเสียหายก็ซ่อมเพียง 500 บาท เรื่องรั้วเสารั้วและสังกะสี โจทก์มิได้ระบุว่าเป็นอะไร เสียหายเท่าใดเป็นฟ้องเคลือบคลุม ค่าเสียหายสำหรับทรัพย์สินอื่นก็เช่นเดียวกันอย่างไรก็ตามจำเลยได้จ้างผู้รับเหมาให้ทำการก่อสร้างบนที่ดินของจำเลย เป็นการใช้สิทธิโดยสุจริต จึงไม่ต้องรับผิด
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า คำฟ้องเรื่องสังกะสี 50 แผ่นไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม จึงพิพากษาให้จำเลยใช้ค่ารื้อและทำดาดฟ้าใหม่เป็นเงิน10,000 บาท ค่าสังกะสี 400 บาทแก่โจทก์
โจทก์ จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เพิ่มขึ้นอีกเป็นเงิน 4,000 บาท
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาพิพากษายืนโดยวินิจฉัยว่า แม้ฟ้องโจทก์จะได้บรรยายว่ารั้วสังกะสีของโจทก์เสียหายไปประมาณ 50 แผ่น รวมทั้งทรัพย์อื่น ๆ อีกด้วย โดยมิได้ตีราคาเฉพาะสังกะสีว่าเสียหายเป็นเงินเท่าใด ก็ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม และแม้จำเลยจะได้จ้างเหมาให้ผู้รับจ้างเหมาตอกเสาเข็ม แต่จำเลยได้สั่งให้คนไปควบคุมการตอกเข็มให้เป็นไปตามสัญญาจำเลยจึงต้องรับผิดต่อโจทก์ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 428