แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
คณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์มีคำสั่งให้นายจ้างจ่ายค่าเสียหายให้แก่ลูกจ้างได้ โดยมีอำนาจกำหนดได้ตามที่เห็นสมควรพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์พ.ศ. 2518 มาตรา 41(4) ไม่ต้องอาศัยเทียบเคียงกับประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงานเกี่ยวกับการกำหนดค่าชดเชยเพราะไม่ใช่เป็นกรณีไม่มีบทกฎหมายที่จะยกมาปรับคดีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 4
ย่อยาว
ศาลแรงงานกลางพิพากษายกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ที่โจทก์อุทธรณ์ว่าจำเลยมีคำสั่งให้โจทก์ใช้ค่าเสียหายแก่นายอนันต์ ปลั่งศรี ผู้ร้องคนหนึ่งเป็นเงิน 14,300 บาท และรับผู้ร้องอีก 4 คนกลับเข้าทำงานเป็นคำสั่งที่ขัดต่อกฎหมาย เพราะเป็นการสั่งให้โจทก์ปฏิบัติต่อผู้ร้องแตกต่างกัน โดยที่ผู้ร้องเหล่านั้นถูกเลิกจ้างเพราะเหตุอย่างเดียวกัน และการกำหนดค่าเสียหายก็ไม่เป็นไปตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการคุ้มครองแรงงานเกี่ยวกับการกำหนดค่าชดเชย อันเป็นกฎหมายใกล้เคียงอย่างยิ่งที่จำเลยจะต้องนำมาใช้ในการกำหนดค่าเสียหาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 4 พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า จำเลยในฐานะคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์มีหน้าที่วินิจฉัยชี้ขาดคำร้องดังกล่าวตามพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์พ.ศ. 2518 มาตรา 125 และมีอำนาจตามมาตรา 41(4) ที่จะสั่งให้นายจ้างรับลูกจ้างกลับเข้าทำงาน หรือใช้ค่าเสียหาย หรือให้ผู้ฝ่าฝืนปฏิบัติหรือไม่ปฏิบัติอย่างใดอย่างหนึ่งได้ตามที่เห็นสมควร นายอนันต์ ปลั่งศรี ร้องขอค่าเสียหายส่วนผู้ร้องอีก 4 คนร้องขอกลับเข้าทำงาน ที่จำเลยสั่งตามคำขอของผู้ร้องจึงเป็นคำสั่งที่ไม่ขัดต่อกฎหมายส่วนการกำหนดจำนวนค่าเสียหายนั้น เห็นว่าจำเลยมีอำนาจกำหนดได้ตามที่เห็นสมควร ตามมาตรา 41(4) ที่กล่าวแล้วไม่ต้องอาศัยเทียบเคียงกับประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการคุ้มครองแรงงานเกี่ยวกับการกำหนดค่าชดเชย เพราะมิใช่กรณีไม่มีบทกฎหมายที่จะยกมาปรับคดีได้ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 4 คำสั่งของจำเลยไม่ขัดต่อกฎหมาย”
พิพากษายืน