แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ขายให้เงินแก่ฝ่ายหญิงเป็นค่าเรือนหอที่ปลูกอยู่แล้วในที่ดินของฝ่ายหญิง เมื่อพ.ศ.2469 เรือนนั้นต้องเป็นเรือนหอและตกได้แก่ขาย อ้างฎีกาที่ 612/125 การใช้กฎหมายเรื่องผัวเมียที่เกิดขึ้นในสมัยกฎหมายผัวเมียอย่างเก่า ต้องใช้กฎหมายเก่านั้นบังคับ
ย่อยาว
ได้ความว่าโจทก์ไปได้นางเสนบุตรีนายจากนางสินเป็นภริยานายจากได้เรียกเงิน ๔๘๐ บาทเป็นค่าเรือนหอซึ่งได้ปลูกอยู่แล้วในที่ดินของหญิง โจทก์กับภริยาได้ครอบครองเรือนหลังนี้อยู่ประมาณ ๓ ปีจึงย้ายไปทำมาหากินที่อื่น นายจากจึงได้ทำพินัยกรรมยกเรือนหลังนี้ให้จำเลย
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยคืนเรือนให้โจทก์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าเรือนหลังนี้เป็นอสังหาริมทรัพย์ การที่โจทก์ให้เงินแก่นายจากเช่นนี้เป็นทำนองการซื้อขาย เมื่อไม่ได้สัญญาจดทะเบียนต่อเจ้าพนักงานโจทก์ก็หาได้กรรมสิทธิไม่ เรือนยังคงเป็นของนายจาก ๆ จึงมีสิทธิทำพินัยกรรมให้จำเลยได้
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าแม้เรือนหอรายนี้จะเป็นอสังหาริมทรัพย์ก็ดี เรื่องนี้เกิดเมื่อ พ.ศ.๒๔๖๙ จำต้องวินิจฉัยตามหลักกฎหมายผัวเมีย ณ บัดนั้น เห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องฝ่ายหญิงเรียกเอาเงินจากขายเป็นค่าเรือนหอซึ่งปลูกอยู่แล้วในที่ดินของหญิงตามนัยแห่งคำพิพากษาฎีกาที่ ๖๑๒/๑๒๕ เรือนนั้นตกเป็นเรือนหอของขาย จึงพิพากษาให้โจทก์ชนะคดีตามศาลชั้นต้น