แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1,2 ฝ่ายหนึ่งสมคบกันใช้ปืนและหอกทำร้ายผู้ตายและจำเลยที่ 3 โดยเจตนาฆ่า จำเลยที่ 3 กับผู้ตายอีกฝ่ายหนึ่งสมคบกันใช้กำลังกายและมีดทำร้ายจำเลยที่ 1 และ 2 ฟ้องของโจทก์เช่นนี้ เป็นฟ้องที่ลงโทษจำเลยที่ 1 ฐานฆ่าคนโดยเจตนาได้ ในเมื่อปรากฏตามทางพิจารณาว่า จำเลยที่ 1 ใช้หอกแทงผู้ตายถึงแก่ความตายโดยเจตนา.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ ๑ และ ๒ ฝ่ายหนึ่งสมคบกันใช้ปืนและหอกทำร้ายร่างกายนายนิ่ม อินทร์เงิน และจำเลยที่ ๓ โดยเจตนาฆ่า จำเลยที่ ๓ และนายนิ่มอีกฝ่ายหนึ่งสมคมกันใช้กำลังกายและมีดทำรายจำเลยที่ ๑ และ ๒ นายนิ่มถูกทำร้ายถึงตาย ส่วนจำเลยที่ ๑,๒ ถูกทำร้ายบาดเจ็บ ขอให้ลงโทษตามประมวลอาญา ม. ๒๘๘,๒๙๕, ๒๙๗
จำเลยที่ ๑ ต่อสู้ว่า แทงนายนิ่มป้องกันตัว จำเลยที่ ๒ ให้การปฏิเสธว่า ถูกทำร้ายฝ่ายเดียว จำเลยที่ ๓ ต่อสู้ว่า จำเลยที่ ๒ จะยิงคนและนายนิ่มพี่ชาย จึงใช้มีดป้องกัน
ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยที่ ๑ แทงนายนิ่มโดยเข้าใจว่าเป็นตำรวจมาจับการพนันที่กำลังเล่นกันจำเลยที่ ๒ เอาปืนจะมายิงช่วยจำเลยที่ ๑ จำเลยที่ ๓ เข้าปล้ำแย่งปืนและใช้มีดทำร้าย เห็นว่าแต่ละคนไม่ได้สมคบกัน พิพากษาว่า จำเลยที่ ๑ ผิดฐานฆ่าคนโดยเจตนาตามประมวลอาญา ม.๒๘๘ จำคุก ๑๕ ปีส่วนจำเลยที่ ๒ มิได้ทำผิดดังฟ้อง และจำเลยที่ ๓ ก็กระทำไปในทางป้องกัน ให้ยกฟ้องจำเลยที่ ๒ และ ๓ เสีย
จำเลยที่ ๒ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ ๑ ฎีกา
ศาลฎีกาคงฟังว่าจำเลยที่ ๑ แทงนายนิ่มตายโดยเจตนา เนื่องจากเมาสุราและเข้าใจว่านายนิ่มจะมาจับการพนันที่ตนเล่น ฎีกาจำเลยที่ ๑ ข้อให้ลดโทษนั้น เห็นว่าจำเลยที่ ๑ ชราแล้ว และได้รับบาดเจ็บเพราะถูกนายนิ่มฟันเอาเหมือนกัน คำให้การจำเลยได้แทงไปเพื่อป้องกันตัวนั้น เป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง จึงพิพากษาแก้ให้ลดโทษลง ๑ ใน ๓ คงจำคุกไว้ ๑๐ ปี