แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
กู้เงินกันแล้วภายหลังลูกหนี้ยอมยกที่บ้านที่สวนให้แก่ผู้ให้กู้แทนการชำระหนี้นั้น ย่อมกระทำได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 321ในกรณีเช่นนี้แม้จะยังมิได้จดทะเบียนให้สมบูรณ์ และยังครอบครองไม่ถึง 10 ปี ก็หาใช่เป็นการยึดถือครอบครองโดยปราศจากสิทธิไม่ ลูกหนี้จะใช้สิทธิตามมาตรา 1336 ติดตามเรียกทรัพย์คืนไม่ได้ เพราะสิทธิติดตามเอาคืนซึ่งทรัพย์สินของตนจะกระทำได้แก่บุคคลผู้ไม่มีสิทธิจะยึดถือเท่านั้น
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อประมาณ 8 ปีมานี้ ได้กู้เงินจำเลย 145 บาทแล้วมอบที่นาที่บ้านให้จำเลยทำกินต่างดอกเบี้ย บัดนี้โจทก์ขอไถ่จำเลยไม่ยอมจึงฟ้องขอไถ่
จำเลยต่อสู้ว่า ครบกำหนดสัญญากู้แล้ว โจทก์ไม่มีเงินไถ่จึงยกให้เป็นสิทธิแก่จำเลย ๆ ปกครองเป็นเจ้าของมา 7 ปีเศษแล้ว
ศาลชั้นต้นฟังว่า โจทก์มอบที่พิพาทให้จำเลยแทนการชำระหนี้และจำเลยได้ครอบครองมาหลายปีแล้ว โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง พิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า จำเลยได้สิทธิเฉพาะที่นา แต่สำหรับที่บ้านจำเลยเพิ่งครอบครองมาได้เพียง 7 ปีเท่านั้น ยังหาได้กรรมสิทธิ์ไม่ จึงพิพากษาแก้ให้จำเลยคืนที่บ้านแก่โจทก์และรับเงิน 100 บาทจากโจทก์ นอกนั้นยืน
โจทก์, จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงต้องกันมาว่าโจทก์ยอมยกที่นาและที่สวนให้แก่จำเลยแทนการชำระหนี้เงินกู้ และจำเลยครอบครองมาโดยเจตนาเป็นเจ้าของอย่าเปิดเผย8-9 ปีแล้ว ซึ่งถูกต้องตามคำพยานหลักฐานในสำนวนแล้ว
สำหรับนาพิพาทเป็นที่ไม่มีหนังสือสำหรับที่ดิน โจทก์สละสิทธิแห่งการครอบครองให้แก่จำเลยมาเป็นเวลา 8-9 ปีแล้ว จำเลยย่อมได้สิทธิแห่งการครอบครองตามกฎหมาย ส่วนที่สวนที่บ้าน แม้การเข้าครอบครองยังไม่ครบ 10 ปีก็ดี แต่ทว่าการที่ยอมยกที่บ้านที่สวนให้แก่จำเลยแทนการชำระหนี้เช่นนี้ ย่อมทำได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 321 หากแต่ยังมิได้จดทะเบียนให้สมบูรณ์เท่านั้น หาใช่เป็นการยึดถือครอบครองโดยปราศจากสิทธิไม่ มาตรา 1336 สิทธิติดตามเอาคืนซึ่งทรัพย์สินของตนจะกระทำได้แต่บุคคลผู้ไม่มีสิทธิจะยึดถือเท่านั้น
จึงพิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ยกฟ้องโจทก์ยืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น